บทละครโทรทัศน์ บาปบรรพกาล ตอนที่ 5
เรือนไม้หอม ช้อยยังไม่หยุดบีบคอรสสุคนธ์ที่ทำท่าจะหมดลมเพราะสู้แรงคนสติไม่ดีไม่ได้...ตาดำรีบวิ่งเข้ามาแล้วตวาดช้อย...เสียงดังน่ากลัว “ปล่อย...”
ช้อยตกใจคิดว่าตาดำเป็นผีก็ปล่อยมือจากรสสุคนธ์... “ผีสองตัว...กลัว กลัว...” ช้อยวิ่งหนีเตลิดไป
ส่วนรสสุคนธ์ หลังจากช้อยปล่อยมือก็ไอค่อกแค่กพลางมือก็จับที่ลำคอของตัวเอง พอดีขึ้นก็หันไปมองด้านหลังเพราะได้ยินเสียงตาดำที่ตวาดช้อย...แต่กลับไม่เห็นแม้เงาของตาดำก็ให้ประหลาดใจ “ทำไมหายไปไวนัก...”
รสสุคนธ์เดินเข้ามาด้านในเรือนไม้หอมด้วยความแปลกใจว่าคนที่มาช่วยหายไปไหน “คนแน่ๆ หายไปทางไหนนะ” เธอพยายามชะเง้อมองหา จู่ๆ ผีแม้นมาศโผล่ออกมาจากที่มืด รสสุคนธ์ตกใจร้อง “ว้าย...”
ผีแม้นมาศยิ้มเย็นๆ “ขอโทษที่โผล่มาไม่ให้เสียง ว่าแต่คุณออกไปทำอะไรนอกเรือนตอนค่ำๆ มืดๆ”
“ฉันแค่ไปเดินเล่น จู่ๆ ช้อยก็โผล่มาบีบคอ ดีที่มีคนมาช่วยไว้ แต่ไม่รู้หายไปไหนไวจัง”
ผีแม้นมาศพึมพำ “ช้อยงั้นเหรอ”
“ฉันไม่ถือสาหรอก ใครๆ ก็รู้ว่าช้อยสติไม่ดี”
ผีแม้นมาศไม่ตอบรสสุคนธ์ แต่แววตาแอบซ่อนความไม่พอใจไว้
ท่าน้ำเรือนไม้หอม ผีแม้นมาศหน้าขาวโพลนประกาศกร้าวใส่ช้อยไม่พอใจที่มาทำร้ายหลาน “นังช้อย ฉันเตือนแกแล้วใช่มั้ยว่าอย่ามาที่นี่อีก ถ้าไม่อยากตาย...” แล้วใบหน้าก็เปลี่ยนสภาพจากหน้าขาวโพลนเป็นหน้าเละเน่าหนอน
ช้อยจ้องมองด้วยอาการกลัวสุดขีด “ผี ผี แกเป็นผี...” ช้อยถอยกรูด...
ผีแม้นมาศยกมือขึ้นทำท่าจะบีบคอช้อย..ช้อยยิ่งกลัวมากจนฉี่ราด ผีแม้นมาศไม่สนใจ เอื้อมมือมาบีบคอช้อย “ตายซะ...”
ช้อยดิ้นรนหายใจขลุกขลักเพราะเริ่มขาดอากาศ พยายามร้องขอชีวิต “อย่า...กะ...กลัวแล้ว...”
ผีแม้นมาศแสยะยิ้มแล้วหัวเราะเสียงก้อง “ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ด้วยสัญชาตญาณการอยู่รอด ช้อยดิ้นรนสะบัดให้พ้นมือเย็นชืดของผีแม้นมาศอีกรอบ เป็นจังหวะที่ผีแม้นมาศหัวเราะเลยทำให้แรงบีบคออ่อนลง ช้อยจึงหลุดจากการถูกบีบคอแค่เสี้ยววินาทีวิ่งเตลิดหนีไป ระหว่างวิ่ง...ช้อยพยายามจะกรีดร้องแต่ไม่มีเสียง ได้แต่วิ่งไป...แบบไร้สติ