บทละครโทรทัศน์ พิษสวาท ตอนที่ 9 หน้า 5
“มันก็เป็นแค่ภาพที่จิตใต้สำนึกปรุงแต่งขึ้นมาเอง โยมพยายามปล่อยวาง ทำจิตให้ว่าง เดี๋ยวมันก็หายไป”
อัคนีฟังที่หลวงพ่อบอก แล้วคิดตาม
หลวงพ่อนั่งอยู่กับพระอีก ๓ รูป ชาวบ้านทยอยกันลงไปนั่งในโลง อัมพวัน ทิพอาภานั่งอยู่ที่นั่งญาติ อัคนีนั่งอยู่ในโลง โดยที่โลงข้างๆเป็นใหญ่
เด็กวัดส่งดอกไม้ ธูปเทียนให้อัคนีและใหญ่ “เดี๋ยวนอนพนมมืออยู่ในโลงนะครับ... รอจนพระสวดจบแล้วค่อยลุกขึ้นมา”
อัคนีพยักหน้าแล้วนอนลง ใหญ่ทำตาม เด็กวัดเอาสายสิญจน์พันมือให้อัคนี เหมือนพันมัดตราสังข์คนตาย แล้วโยงสายสิญจน์ไปให้หลวงพ่อที่นั่งเตรียมทำพิธี เด็กวัดเอาฝาโลงปิดโลงให้ใหญ่
ใหญ่ชะงักลุกขึ้นมา “ต้องปิดฝาโลงด้วยเหรอครับ?”
“ไม่ต้องกลัว ไม่ได้ปิดสนิทหรอก เดี๋ยวจะแง้มๆไว้ให้..”
ใหญ่ยอมนอนลง เด็กวัดเลื่อนโลงปิด เปิดแง้มให้เห็นตรงหน้าเอาไว้ เด็กวัดอีกคนยกฝาโลงขึ้นมาเตรียมปิดโลงของอัคนี แล้วเปิดแง้มไว้เหมือนของใหญ่ อัคนีนอนนิ่งๆ ไม่มีท่าทีกลัวอะไร เขาพนมมือแล้วหลับตาลง ได้ยินเสียงพระเริ่มสวดบังสุกุลเป็นบังสุกุลตาย ใหญ่หลับตาปี๋ท่าทางกลัวๆ ไม่กล้าลืมตาขึ้นมามอง
อัคนีนอนหลับตา สักครู่เห็นว่าฝาโลงของอัคนีค่อยๆเลื่อนปิดช้าๆ แสงที่ส่องหน้าอัคนีจากที่สว่างเห็นทั้งหน้า ค่อยมืดลงเรื่อยๆเพราะโลงถูกปิด อัมพวัน ทิพอาภามัวแต่ฟังพระสวดเลยไม่เห็นว่าฝาโลงของอัคนีกำลังค่อยปิดจนสนิท!!
มุมหนึ่งในวัด อุบลที่มีโซ่ตรวนล่ามที่เท้า ยืนมองอัคนีอยู่ ในโลงของอัคนีมืดสนิท มีเพียงเสียงหายใจของอัคนีที่ดังเป็นจังหวะ ได้ยินเสียงพระสวดดังแว่วเข้ามาในโลง อยู่ๆ อัคนีรู้สึกอึดอัด หายใจไม่ออกแน่นหน้าอก อัคนีพยายามหลับตา ทำสมาธิ แต่ยังไม่ดีขึ้น อัคนีทนไม่ไหว ลืมตาขึ้น พยายามทุบฝาโลง เรียกคนให้เปิด
“เปิดโลงก่อนครับ!! เปิด!! มีใครได้ยินผมไหม เปิดให้หน่อย!!!”
ด้านนอก พระยังคงสวดทำพิธี ไม่มีใครได้ยินเสียงอัคนีและเสียงทุบโลง อัคนียังพยายามทุบโลง และร้องเรียกให้เปิดโลง อัคนีเริ่มอ่อนแรง ที่บนโลงที่อัคนีนอน อุบลที่ข้อเท้ามีโซ่ตรวนล่ามยืนอยู่บนโลงของอัคนี อัคนีเริ่มหายใจไม่ออก และหมดสติไป
อัคนีลืมตาขึ้นอีกครั้ง เห็นตัวเองยืนอยู่ท่ามกลางสนามรบ ในคืนกรุงแตก เสียงของปืนใหญ่ดังไม่ขาดสาย เสียงผู้คนกรีดร้อง อัคนีพยายามประมวลเหตุการณ์ว่าตนเองอยู่ที่ไหน แล้วเริ่มรู้สึกได้ว่าไม่มีใครในที่นั้นเห็นอัคนี
“ออกไป พวกมึงอย่ามาเหยียบแผ่นดินกู!!”
อัคนีรู้สึกคุ้นเสียง หันไป เห็นเป็นพระอรรคกำลังสู้กับพวกอังวะ โดยมีจันและทหารร่วมรบอยู่ด้วย อัคนีตกใจ วิ่งเข้าไปดู จึงแน่ใจว่าเป็นพระอรรคที่ท่าทางสะบักสะบอมและเหนื่อยล้ามาก
“เอาอย่างไรดีขอรับคุณพระ ไอ้พวกอังวะมันบุกมาถึงวัดพระศรีสรรเพชญ์แล้ว”