บทละครโทรทัศน์ ลมซ่อนรัก ตอนที่ 24 (ตอนจบ) หน้า 2
ปราณพูดต่อ “จุดเริ่มต้นของโครงการนี้ มาจากแพทย์หญิงปริยา คุณแม่ของผมเอง ท่านคือหมอที่อุทิศชีวิตเพื่อคนไข้มาก ท่านเลือกที่จะเดินออกจากชีวิตผู้บริหารอาณาจักรจีแอลเอสเพื่อไปเป็นหมอบนดอย เพียงเพราะท่านรู้สึกว่า ที่นั่น ท่านได้ทำหน้าที่หมอมากกว่าที่เคยเป็น”
ที่ห้องพักรวมของคนไข้เด็ก..พวกเด็กๆ แต่ละเตียงกำลังชะเง้อมองกันว่าจะมีใครเข้ามา สักพัก มีชายในชุดกาวน์เดินถอยหลังเข้ามา แล้วเขาก็หันหน้ามา คือ ปราณนต์ ที่มีจมูกและหนวดแบบตัวตลกติดอยู่ “แท่มแท๊มมมมม”
พวกเด็กๆ หัวเราะขำ ปราณนต์เล่นกับเด็ก และหลอกล่อตรวจอาการเด็กไปด้วย จนกลายเป็นขวัญใจของคนไข้เด็กๆ
ปราณอธิบายแนวคิด “มากกว่าที่เคยเป็น หมายถึงการได้เป็นหมอที่มีความรู้สึก มีความผูกพันกับคนไข้ เหมือนญาติ เหมือนพี่น้อง เหมือนคนในครอบครัว ได้มีความสุขที่เห็นเขาเป็นสุข”
ที่ห้องพักคนไข้ ปราณนต์กอดเด็กคนนึงอย่างดีใจสุดตัว พวกญาติๆเด็กเข้ามาไหว้จับไม้จับมือแสดงความขอบคุณมากๆ ที่ช่วยรักษาให้
“หรือได้ร่วมเสียน้ำตา เมื่อเขาเสียน้ำตา”
ที่หน้าห้องไอซียู ปราณนต์เดินออกมารายงานข่าวร้ายให้ญาติคนไข้ ญาติคนไข้ร้องไห้โฮ ยกมือพยายามจะกลั้นน้ำตา ปราณนต์สงสารเห็นใจ กอดปลอบญาติคนไข้ ปราณนต์น้ำตาไหลไปด้วย รู้สึกผิดที่ช่วยเหลือคนไข้ไม่ได้
“แต่การแพทย์ยุคใหม่ เราปฏิเสธการใช้เทคโนโลยีไม่ได้ เพราะมันมีส่วนช่วยให้ประสิทธิภาพในการรักษาแม่นยำขึ้น ช่วยชีวิตคนไข้ได้มากขึ้น นี่คือสิ่งที่คุณพ่อของผม นายแพทย์พสุวัฒน์ ปุณณเวช ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจีแอลเอส..ก็คือ..สร้างเทคโนโลยีมารองรับการทำหน้าที่หมอของแม่” พสุวัฒน์นั่งฟังอยู่ ยิ้มออกมา คิดถึงภรรยา
“คุณพ่อเคยพูดประโยคนึงกับผมว่า..เราทำให้เทคโนโลยีการแพทย์พัฒนาไปได้ไกลมากแค่ไหน เราต้องพัฒนาจิตใจเราให้ไกลยิ่งกว่า..เทคโนโลยีที่ดีจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยถ้ามันอยู่กับคนที่มีจิตใจเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว” พวกแขกในงานลุกยืนปรบมือให้เกียรติกับพสุวัฒน์
“โครงการกิจที่หนึ่ง จึงเป็นโครงที่จีแอลเอสจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการทำหน้าที่ของแพทย์ที่แท้จริงในทุกด้าน เรายินดีสนับสนุนยา อุปกรณ์ทางการแพทย์ เทคโนโลยีทุกชนิดที่ลิขสิทธิ์เป็นของเรา ให้กับโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ขาดแคลนทุกแห่ง โดยไม่มีเงื่อนไข..สิ่งเดียวที่จีแอลเอสจะขอ คือ ขอให้การสนับสนุนของเราเป็นไปเพื่อ“ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์ เป็นกิจที่หนึ่ง” ขอบคุณครับ” ปราณโค้งให้ผู้ฟัง เป็นการจบสุทนทรพจน์ แขกในงานทุกคนลุกยืน ปรบมือ ปราณนต์ อัณณา พสุวัฒน์ลุกยืนเช่นกัน ด้วยความภาคภูมิใจมาก