บทละครโทรทัศน์ ลีลาวดีเพลิง ตอนที่ 24 หน้า 3
ที่ลานจอดรถของโรงพยาบาล รถทิวัตถ์แล่นเข้ามาจอด ทิวัตถ์กับนพกรก้าวลงมาจากรถ
ทิวัตถ์หันไปสั่งนพกร “รออยู่นี่แหละ...” ชายหนุ่มพูดจบวิ่งเข้าโรงพยาบาลไป
นพกรมองตามทิวัตถ์อย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะล้วงกระเป๋าหยิบสร้อยข้อมือลีลาวดีออกมามองอย่างหลงใหล
วิทยาตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่ลิลินเล่าให้ฟัง
“อะไรนะ...พวกนั้นรู้ว่าหนูลีเป็นใครแล้วเหรอ !!”
ลิลินหนักใจ “ค่ะ”
“นี่หนูลีกำลังจะบอกพี่ว่าคนร้ายเมื่อคืนคือคนที่พวกนั้นส่งมาใช่มั้ย” ลิลินพยักหน้า กระเถิบตัวจะลุกขึ้นแล้วรู้สึกหน้ามืด วิทยารีบเข้ามาดูแล “ค่อยๆสิหนูลี...ให้พี่ช่วยดีกว่า”
จังหวะนั้นทิวัตถ์ก็โผล่พรวดเข้ามาด้วยความเป็นห่วง แต่พอเห็นวิทยาอยู่ในห้องกำลังประคองลิลิน ทิวัตถ์ก็ชะงักไป ทิวัตถ์กับวิทยามองหน้ากัน
วิทยาถามขึ้น “คุณมาทำอะไรที่นี่”
ทิวัตถ์สวนกลับ “ผมต่างหากที่ต้องถามว่าคุณมาทำอะไรที่นี่”
วิทยาได้ยินก็โมโหจะเข้าไปเอาเรื่องทิวัตถ์ “ที่หนูลีต้องเป็นอย่างนี้ก็เพราะพวกคุณ”
ทิวัตถ์ได้ยินวิทยาเรียกชื่อลิลินว่าหนูลีก็สะดุดหู ก่อนจะมองลิลินกับวิทยาอย่างสงสัย “ทำไมคุณเรียกเธอว่าหนูลี”
“เอ่อ...คือจริงๆแล้วพี่วิทกับฉันรู้จักกันตั้งแต่สมัยเด็กๆ”
ทิวัตถ์ได้ยินก็เข้าใจและสัมผัสได้ถึงความสัมพันธ์บางอย่างที่ทิวัตถ์ไม่รู้ “ทำไมผมไม่เคยรู้มาก่อน”
ลิลินกำลังจะอธิบาย แต่วิทยาก็พูดขึ้น “ยังมีอีกหลายเรื่องที่คุณไม่รู้...แต่ตอนนี้...ผมอยากให้คุณตอบเรื่องที่ผมคิดว่าคุณต้องรู้ก่อน” ทิวัตถ์สงสัยคำพูดวิทยา “พวกคุณส่งคนมาทำร้ายหนูลีใช่มั้ย”
ลิลินเห็นท่าไม่ดี รีบขัดขึ้น “พี่วิทคะ...เรื่องนี้คุณวินเขาไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ” วิทยาหันมองลิลินอย่างสงสัย “ไว้หนูลีเล่าให้ฟังนะคะ...แต่ตอนนี้พี่วิทกลับไปก่อนเถอะค่ะ”
วิทยามองลิลินอย่างดื้อดึง “ไม่...พี่ไม่ปล่อยให้เราอยู่คนเดียวแน่ๆ”
“เชื่อหนูลีเถอะค่ะ...คุณวินไม่มีทางทำร้ายหนูลีหรอก...นะคะพี่วิท”
วิทยาจำใจยอม “ก็ได้...ไว้พี่มาเยี่ยมหนูลีใหม่แล้วกัน” วิทยากำลังเดินออกจากห้องหันมามองหน้าทิวัตถ์
พอวิทยาเดินออกไป ทิวัตถ์ก็ออกอาการงอน พูดด้วยความน้อยใจ “ที่จริงจะให้ผมเป็นฝ่ายไปก็ได้นะ...”
“นี่...ฉันเป็นอย่างนี้คุณยังหาเรื่องทะเลาะอีกหรือไง”
ทิวัตถ์แอบพอใจที่ลิลินไม่ออกปากไล่ คิดไปเองว่า เพราะเธอเห็นเขาสำคัญกว่าวิทยา “ไอ้สิทธิ์โทรบอกผมเมื่อเช้าว่าคุณถูกทำร้าย...เป็นยังไงบ้าง”
“จริงๆ ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก”
ทิวัตถ์มองลิลินด้วยความเป็นห่วง “คุณแน่ใจนะ...”