บทละครโทรทัศน์ นายฮ้อยทมิฬ ตอน 31 (จบบริบูรณ์) หน้า 5
คำแก้วรวบรวมแรงสุดท้ายกระชากสร้อยเขี้ยวเสือโปร่งฟ้าจากคอ แล้วโยนให้เคนที่ฝืนแรงวิ่งเข้ามารับ...หมับ !!! ส่วนตัวเองก็สลบหมดสติไป คำแสนจะเข้าไปแย่งเขี้ยวเสือโปร่งฟ้า แต่ไม่ทันเพราะนายฮ้อยเคนกำมันไว้ในมือแล้วแทงเข้าไปที่ตาคำแสนทันที..ฉึก !!! “อ๊ากกกกกก” คำแสนร้องเจ็บปวดลั่นด้วยความทรมานแสนสาหัส
ที่ด้านนอกซากโบราณสถาน ถึกกับโทนกำลังตบหน้าเบาๆ เรียกสติสีโหจนรู้สึกตัว แต่ระหว่างนั้นอยู่ๆ พลันท้องฟ้าก็เกิดวิปริตแปรปรวน เมฆทะมึนสีดำเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างรวดเร็ว มีสายฟ้าแลบแปร่บปราบ ถึกกับโทนและสีโหพากันชะงักอึ้ง ด้วยความแปลกประหลาดใจหาคำตอบไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น คำแสนเดินร้องครวญครางเจ็บปวดมือกุมหน้าที่มีเขี้ยวเสือโปร่งฟ้าปักที่ดวงตา เลือดเต็มมือ
“อ๊ากกกก…บักห่านายฮ้อยทมิฬ…มึง..พวกมึงทุกคนต้องตาย…ตายห่ากันเบิ่ด !!!”
คล้อยหลังคำแสนร้องเจ็บปวดออกมาติดๆ กัน นายฮ้อยเคนอุ้มคำแก้วที่หมดสติเดินตามออกมามองคำแสนอย่างสมเพช “ถึงเวลาที่มึงต้องชดใช้เวรกรรมแล้วบักคำแสน”
“เวรกรรม..เวรกรรมหน้าตามันเป็นจังได๋กูบ่ฮู้จักโว้ย !!..มีแต่กูนี่ล่ะที่สิเป็นเจ้ากรรมนายเวรของพวกมึงทุกคน !!”
“บักคำแสน..ความซั่วเฮ็ดให้เจ้าบ่ย่านเวรกรรม จนบ่ฮู้ว่าหน้าตาเป็นจังได๋..แต่มือนี่ล่ะที่ เจ้าสิได้ฮู้จักมันดี”
นายฮ้อยเคนพูดพร้อมเงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้า มองเมฆดำที่เคลื่อนตัวไปมาและสายฟ้าแล่บแปลบๆ ฉับพลันนั้นเองสายฟ้าก็ฟาดตรงมาที่คำแสนซึ่งยืนอยู่กลางที่โล่ง…เปรี้ยง !!!!...อ๊ากกกกกกก !!!! คำแสนร้องเจ็บปวดโหยหวนร่างลุกเป็นไฟ ดิ้นทุรนทุรายก่อนจะล้มลงไหม้เกรียมต่อหน้าต่อตาโทน ถึก สีโห
“นายฮ้อยทมิฬ....นายฮ้อยทมิฬของหมู่เฮา !!!!”
“นายฮ้อยทมิฬ !!!!” ทั้ง 3 ดีใจรีบวิ่งเข้าไปหานายฮ้อยเคนที่ยืนอุ้มคำแก้วเอาไว้ และมองคนรักอย่างเป็นห่วง
ดวงจันทร์วันเพ็ญสวยงาม ที่บริเวณเกวียนพักของผู้ช่วยโทน แสงโสมที่หมดสติไปนานค่อยๆ สึกตัวขึ้นมา แต่มีอาการมึนๆ หัว “อู้ยยยย..กบาลข้อย..แทบระเบิดเป็นเสี่ยงๆ เลย...อู้ยยยย”
แสงโสมบ่นปวดหัวไปได้ครู่ ระหว่างนั้นได้ยินเสียงโทนเดินคุยมากับอาจารย์เม้า
“บ่เป็นหยังแล้วล่ะจารย์เม้า นายฮ้อยซอยไล่ผีพรายออกจากโตแสงโสมให้แล้ว”
“จังซั่นเจ้าก็เบิ่งแยงแสงโสมไป ส่วนข้อยสิไปเบิ่งแยงผูที่บาดเจ็บ”
อาจารย์เม้าแยกออกไป เหลือโทนที่หันมาทางแสงโสมที่รีบล้มตัวลงนอนแล้วทำเป็นยังนอนหมดสติไม่รู้เรื่อง
โทนเข้ามานั่งใกล้ๆ มองแสงโสมด้วยแววตาอ่อนโยนเป็นห่วงมีรอยยิ้มชื่นชม เพราะคิดว่ายังไม่รู้สึกตัว