บทละครโทรทัศน์ หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 16 หน้า 2
สีหน้าแน่นขอความเห็นใจจากเพื่อน “แต่เห็นใจข้าบ้างเถิดวะ เป็นขันทีจะแสดงออกกระไรก็ไม่ได้ เหลือเพียงทางนี้เท่านั้น แลคนอื่นคงคิดว่าข้าให้ของอย่างคนสนิทเท่านั้น ไม่มีผู้ใดคิดว่า ขันทีจะมีใจให้ผู้หญิงดอก เอ็งอย่ากังวลนักเลย” แน่นเดินเลี่ยงไปทางอื่น ไม่ยอมคุยด้วยอีก ขันทองได้แต่มองตามไปด้วยความหนักใจอยู่ดี
หน้าตำหนักแห่งหนึ่ง แน่นเอาปิ่นปักผมที่เป้าอยากได้ยื่นให้เป้า ต่อหน้าข้าหลวงคนอื่นๆ เป้านึกไม่ถึง
“นี่ท่านขุนให้ฉันจริงๆหรือจ๊ะ
แน่นยิ้มแย้ม “จริงซี ฉันแอบเห็นว่าแม่เป้าอยากได้ แลราคานี้ฉันพอจ่ายได้ ไม่เดือดร้อนกระไร แม่รับไปเถิดนะ
เป้าดีใจ ไหว้ “เป็นพระคุณเจ้าค่ะ” เป้ารับปิ่นปักผมมาด้วยความดีใจ ไม่คิดอะไร แน่นมองเป้าดีใจ แล้วก็พลอยดีใจไปด้วย ในขณะที่พวกข้าหลวงคนอื่นๆ เข้ามาดูกันปิ่นปักผมของเป้ากันยกใหญ่ ข้าหลวงยิ้มแย้ม
“ฝนตกไม่ทั่วฟ้านี่เจ้าคะท่านขุน ให้แม่เป้าคนเดียวแล้วพวกเราเล่าเจ้าคะ
แน่นยิ้มรับ “อย่าเคืองไปเลยแม่ แม่เป้ากับฉันสนิทสนมกัน แลแม่เป้าก็ช่วยเหลืองานการฉันไม่น้อย ถือเป็นสินน้ำใจ แต่ถ้าพวกแม่ๆ อยากได้ เอาไว้วันหลังฉันจะซื้อให้นะ”
พวกข้าหลวงพากันดีใจยกใหญ่ ก่อนจะช่วยกันรวบผมให้เป้า เพื่อลองปิ่นปักผมอันใหม่เป็นที่สนุกสนาน แน่นมองเป้าลองปิ่นปักผม ด้วยสายตากรุ้มกริ่ม มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
ยามบ่าย ครัวในวัง ขุนรักษ์เทวากำลังตื่นเต้น นินทากันมันปาก “ต๊าย จริงรึ ไม่เคยพบเคยเห็นเช่นนี้มาก่อน”
ขุนรักษ์เทวากำลังดูแลพวกข้าหลวงทำกับข้าวในครัว แต่ก็ร่วมวงนินทาไปด้วย ข้าหลวงทำกับข้าวไป นินทาไป
“เห็นกับตาเลยเจ้าค่ะ จะไม่จริงได้อย่างไร นี่ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าท่านขุนจิตใจภักดิ์เป็นนักเทศน์ขันที อีฉันต้องคิด
ว่าเกี้ยวแม่เป้าเป็นแน่เลยเจ้าค่ะ”
ข้าหลวงอีกคนหัวเราะคิกๆ “ขันทีเกี้ยวผู้หญิง จะเป็นไปได้อย่างไร”
ขุนรักษ์เทวาเปรย “ของอย่างนี้ไม่แน่ดอก ขันทีบางคนแม้ถูกตัดความเป็นชายแล้ว แต่ก็ยังใฝ่ต่ำ เอ๊ย ก็ยังมีใจให้หญิงได้อยู่ เพียงแต่เกิดขึ้นได้น้อยมากนัก”
ข้าหลวงตบเข่าฉาด “มิน่าเล่า สายตาที่ท่านขุนจิตใจภักดิ์ดูแม่เป้า ถึงได้ดูกรุ้มกริ่มนัก ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง”
ข้าหลวงอีกคนสนใจมาก “แล้วแม่เป้ารู้ตัวหรือไม่”
“จะรู้กระไร คุณท้าวโสภาเลี้ยงแม่เป้ามาแต่อ้อนแต่ออก ฉันว่าแม่เป้าเคยคุยกับผู้ชายนับครั้งยังไม่ถึงจำนวนนิ้วมือเลยด้วยซ้ำ”
ขุนรักษ์เทวาตื่นเต้น “ว๊าย หากเป็นเช่นนี้...”
ขุนรักษ์เทวาชะงักไป เมื่อเห็นขุนเทพชำนาญเดินหน้าหงิกเข้ามาในครัว