บทละครโทรทัศน์ ระบำไฟ ตอนที่ 11 หน้า 5
“พัดดูให้ค่ะ ปล่อยไว้จะยิ่งอักเสบ” พัดชาทำแผลให้ ยาทาแก้ฟกช้ำ สัมผัสนุ่มนวลของพัดชา ทำพยสใจเต้นรัว พัดชาทิ้งจังหวะ ไม่อ่อยจนสุด ละมือออกมา เก็บข้าวของ ผละออกห่าง “เรียบร้อยแล้วค่ะ ผ้าร้อนไว้ประคบ เผื่อว่าคุณพยสจะปวด ช่วยลดอาการบวมได้ด้วยค่ะ”
พัดชาเดินออกไป ไม่ทันมองเพราะรู้ว่ายังไงพยสก็มองตาม พยสทำเป็นนิ่ง แต่จริงๆก็มองตาม อารมณ์ที่เริ่มลุกโชน ทำให้แทบจะลืมเรื่องทะเลาะกับตรีประดับ
ห้องพัดชา พัดชานั่งในมุมมืด มองนิ้วที่มีเทปปิดแผล สัมผัสที่พยสจับนั้นยังจำได้ พัดชาเคลิบเคลิ้ม นิ้วแปะพลาส
เตอร์ ยกมาดูใกล้ๆ ใกล้ดวงตาจนภาพเบลอ พร่าเลือน พลันมีเสียงหัวเราะ ชิงฉัตรยื่นหน้าเข้ามาใกล้ หัวเราะเยาะ
พัดชาสลัดหัว มองรอบตัวไม่มีใคร “เด็กชิงฉัตร....ฉันกลัวมันขนาดนี้เชียวหรือ”
พัดชานึกถึงเมื่อกลางวันกับสิ่งที่ชิงฉัตรได้กระทำกับตัว
เหตุการณ์ตอนกลางวัน ชิงฉัตรและพัดชาประจันหน้ากันที่ประตูห้อง พัดชาออกจากห้องไปไม่ได้ ชิงฉัตรยียวนกวนประสาท ทำท่าจะคุกคามพัดชา
“อย่าทำอะไรบ้าๆนะคุณฉัตร”
“แค่มองตาผม พี่ก็รู้ทันทีว่าผมคิดอะไร.....แสดงว่าพี่ก็ช่ำชองไม่เบา”
พัดชาฉุนกึก แทงใจดำ “คุณฉัตรจะพูดยังไงก็ตามใจ แต่มันไม่ได้แก้ไขความเลวของคุณที่พี่เจอในห้องนี้”
ชิงฉัตรหน้าตึง เมาปริ่มๆอยู่แล้ว มีเรื่องกับวัยรุ่นมาด้วย อารมณ์กรุ่นเป็นทุนเดิม ชิงฉัตรกระชากตัวพัดชาเข้าประชิด
“ปาก...ไม่ต้องพูดก็ได้ มันทำอย่างอื่นได้” ชิงฉัตรกระชากพัดชามาจูบ พัดชาปัดป้องจริงจัง ตบตีชิงฉัตร ในที่สุดผลักชิงฉัตรออกได้ พัดชายืนหอบด้วยความตะลึง ชิงฉัตรยิ้มเยาะ หัวเราะนิดๆ “ดีใช่ไหมล่ะ” ชิงฉัตรสำรวจเรือนร่างพัดชาที่หอบ จนหน้าอกขึ้นลงตามจังหวะหายใจ
“ถ้าคุณไม่เลิกทำพฤติกรรมแบบนี้ ฉันจะบอกคุณตรีกับคุณพยส”
“เอาสิ อยากบอกก็บอกเลย ผมรู้ จะปิดปากพี่น่ะไม่ยาก....แค่ดูตาก็รู้แล้ว ไฟมันติดแล้ว ยังไงพี่ก็ต้องการ”
ชิงฉัตรปาดน้ำลายที่ปาก สะใจ พัดชาสุดจะทนฟัง รีบผลักชิงฉัตรให้พ้นทาง แล้วออกไป ปิดประตูโครม
พัดชาล้างหน้า เพื่อลบเรื่องที่จำได้ที่ชิงฉัตรทำไม่ดีกับตนไว้เมื่อเย็น พัดชามองหน้าตัวเองในกระจก ลูบหน้า ลูบปาก อึ้งตัวเองที่ติดใจรสชาติจูบรุนแรงนั้น
คอนโดเทศราช เทศราชนั่งมองโทรศัพท์ ในจอเป็นรายชื่อตรีประดับ เทศราชกดพิมพ์ข้อความ “ตรี....โอเคใช่ไหม” เทศราชจะกดส่ง จังหวะนั้นก็นึกถึงที่พยสพูดจาดูถูก
“มันเป็นคนอื่น ผัวเมียมีแค่คนสองคน ไอ้คนที่มาวอแวแทรกตรงกลาง มันเป็นคนอื่น และมันควรรู้ตัวว่าต้องออกไปจากตรงนี้”