บทละครโทรทัศน์ หนึ่งในทรวง ตอนที่ 14 หน้า 5

“ต้องลองเสี่ยงดู ถ้าเราโชคดี ข้างหน้าอาจจะมีบ้านหรืออู่ซ่อมรถ.. เฮ่อ..ไม่น่าเลย”..
อนวัชหันจะลงจากรถ หทัยรัตน์พูดขึ้นเปรยๆ “สมน้ำหน้า อย่างนี้ล่ะน้า..ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว.. “ หทัยรัตน์ลอยหน้าลอยตาไม่มองอนวัช
อนวัชไม่อยากต่อล้อต่อเถียงเปิดประตูและลงจากรถไปเลย
อนวัชลงมาที่หลังรถ หทัยรัตน์มองหน้าปัดรถ แล้วก็เซ็งๆ กับชะตาชีวิตตัวเอง อนวัชเห็นหทัยรัตน์ไม่จับพวงมาลับจึงตีกระจก บุ้ยใบ้ทำท่าให้หทัยรัตน์จับพวงมาลัย หทัยรัตน์หันไปจับอย่างเสียไม่ได้ แล้วเงอะๆงะๆไม่รู้จะเอามือเอาขาวางตรงไหนให้ถูกท่า หทัยรัตน์จึงนึกถึงคำพูดที่อนวัชสอนเมื่อครู่นี้
“เวลาจับพวงมาลัยให้คุณดูข้างหน้าด้วย ถ้ารถจะชนอะไรคุณก็เหยียบที่นี่..มันเป็นเบรค”
หทัยรัตน์มองสุดาเบรกแล้วยิ้มมีเลศนัย แล้วเหยียดเท้ายันเบรคสุดแรง
อนวัชเข็นรถไม่ไป ... เข็นอีกทีก็ยังไม่ไป เข็นอีก..อนวัชเริ่มไม่ไหว วิ่งมาหาหทัยรัตน์และตบกระจกเรียก หทัยรัตน์ลดกระจกลง
“นี่คุณ..ทำไมรถเข็นไม่ไป..คุณทำอะไรห๊ะ ?”
“อ้อ..ฉันเหยียบเบรคไว้น่ะ..ลืมไป..”
“นี่คุณจะแกล้งผมใช่มั้ย ???”
“ฉันไม่ได้แกล้งสักหน่อย ฝนตกหนักคุณต้องยืนตัวเปียกตากฝน ใครจะแกล้งได้ลงคอ” หทัยรัตน์ยิ้มสะใจ อนวัชมองอย่างแค้น หทัยรัตน์ชี้ให้ไปเข็นรถ “เอ้า แล้วคุณจะยืนตากฝนอีกนานไหมไปเข็นรถต่อสิ ฉันจะจับพวงมาลัยให้”
“คราวนี้จับอย่างเดียว ไม่ต้องเหยียบเบรครู้หรือเปล่า”
หทัยรัตน์ทำเป็นพยักหน้า กวนๆ อนวัชจำใจต้องเดินไปหลังรถและเข็น อนวัชเข็นรถอย่างหนัก หทัยรัตน์จับพวงมาลัยไม่ค่อยถนัด และตื่นเต้นเล็กน้อย..รถอนวัชค่อยๆฝ่าดงฝนไปอย่างเชื่องช้าและยากลำบาก
ที่บ้านพิเศษกุล ส่องแสงโวยใส่ชุลี “พี่หนึ่งไปกับนังปุ้ม 2 ต่อ 2”
“ใช่..อุ้ย..กระหนุงกระหนิงกันใหญ่..นี่..ตอนฉันเห็นก็โพล้เพล้แล้วนะ แล้วรถพี่หนึ่งก็มุ่งไปทางชลบุรี ไม่ได้จะกลับเข้ากรุงเทพ ดูท่าทางคงจะไปเที่ยวด้วยกัน”
สีสุกท้วง “ตาฝาดหรือเปล่า? คุณหนึ่งเค้าจะไปต่างจังหวัดค่ำๆมืดๆกับเด็กปุ้มสองต่อสองได้ยังไง..เป็นไปไม่ได้”
“แต่ชุลีเห็นจริงๆนะคะ ไม่ได้โกหก..เอาอย่างนี้สิคะ เราก็ลองโทร.ไปถามที่เพชรลดากับที่เดือนประดับแล้วดูว่าทั้งสองคนอยู่หรือเปล่า ? ถ้าไม่อยู่ทั้งคู่...ก็แสดงว่าที่ชุลีเห็นมันก็เป็นความจริง..”
ชุลียั่วยุอย่างท้าทาย ส่องแสงคิดลังเล