บทละครโทรทัศน์ หนึ่งในทรวง ตอนที่ 13 หน้า 5
นวลนั่งหน้ายักษ์อยู่ในห้องรับแขก สีสุกกับส่องแสงเดินเข้ามาพอเห็นหน้านวลก็หันมองหน้ากัน
“นั่งหน้าเป็นตะบวยเลยค่ะคุณแม่ เราจะปลอดภัยมั๊ยคะ “
สีสุกหวั่นพอกัน แต่ฝืนทำเสียงแข็ง “มาทำไม”
นวลลุกพรวด สีสุกกับส่องแสงตกใจถอยกรูด
“ว้ายยยยย!!!“
“ระวังค่ะคุณแม่ “
ส่องแสงกับสีสุก ถอยมาอยู่ในระยะปลอดภัย นวลแผดเสียงใส่ “มายุ่งกับลูกฉันทำไม ?”
“ลูกเธอ? เกี่ยวอะไรกับพวกฉัน?” สีสุกไม่รู้เรื่อง ส่องแสงหน้าเสียนิดๆ
“ฉันก็ไม่อยากจะเกี่ยวนักหรอก ถ้าลูกสาวเธอไม่สาระแนมายุให้พินิจไปขอนังปุ้มแต่งงาน “
สีสุกงง หันมาทางส่องแสง .. ส่องแสงอึกอักๆ แล้วก็สวนกลับ “ฉันก็แค่สงสาร .. ที่ให้คำแนะนำเพราะต้องการให้ลูกชายคุณสมหวัง ถ้านังปุ้มมันยอมแต่งด้วย ลูกชายคุณก็มีความสุข เราก็จะหมดศัตรูคู่แข่งแย่งพี่หนึ่งไปอีกคน .. ไม่เห็นจะมีอะไรเสียหาย”
“นี่แกวางแผนให้ลูกชายฉันไปแต่งกับนังเด็กไม่มีสมบัติ เพื่อกำจัดคู่แข่ง แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าไม่มีอะไรเสียหาย นังนี่มันเรียนน้อยใช่มั๊ยเนี่ย ดูท่าทางความรู้คงไม่มาก สติปัญญานี่แทบจะไม่มี ถึงคิดได้แค่นี้”
“อั๊ย ยัยป้า มาด่าฉันทำไม ? แล้วป้าดีนักเหรอ เป็นแค่เจ้าของตลาด เก็บค่าเช่าแผง มีหน้าจะพูดเรื่องการศึกษา” สีสุกสะกิดๆให้ส่องแสงใจเย็นๆ
“ถึงฉันเป็นแค่เจ้าของตลาด แต่ฉันส่งลูกเรียนสูงทุกคน ไม่เหมือนแม่เธอ..คงเห็นลูกสาวหน้าตาพอไปวัดไปวาได้ เลยจับแต่งหน้าทาปาก ฝังหัวให้วันๆคิดแต่เรื่องหาแต่ผัว”
“อ้าวววว !! อีนังคุณนาย ฉันอุตส่าห์ให้เกียรติ์ไม่ต่อปากต่อคำ แต่มาด่ากราดแบบนี้ฉันจะไม่ทน !! บ้านฉัน ไม่ใช่ตลาด อย่ามาแสดงกริยา วาจา หยาบคายที่นี่”
“จ้า แม่ผู้ดี!! ถ้าดีจริง ก็หัดอบรมสั่งสอนลูกตัวเองซะบ้าง อย่าได้เที่ยวมาจุ้นจ้านเรื่องของคนอื่น ถ้ายังมายุยงส่งเสริมให้ลูกสาวฉันไปทำเรื่องโง่อีก ฉันจะโพนทะนาไปทั้งพระนคร ว่าลูกสาวบ้านนี้ .. มัวแต่ร่อนหาผัวจนไม่มีสติ”
“กรี๊ดดดด !! ยัยป้า..ยัยป้าปากตลาด”
“ใช่ ฉันปากตลาด และไม่ใช่ตลาดธรรมดา แต่เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย!! จำไว้ซะด้วย” นวลทิ้งระเบิดเสร็จก็สะบัดหน้า หยิบกระเป๋า เดินเชิดออกไป อย่างไม่แคร์
ส่องแสงกรี๊ดดดดดดดส่งท้าย สีสุกต้องเข้ามาประคอง ปลอบใจ “ลูกส่อง ๆ ใจเย็นๆ นะลูก ใจเย็นๆ”
ส่องแสงกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน...แค้นนนนนนนนนนน
สุดา สัทธา หทัยรัตน์ นั่งคุยกันอยู่ในห้องรับแขก สัทธานั่งอ่านหนังสือ
หทัยรัตน์ถามย้ำด้วยความตกใจ “พี่แป้นไปสอนคุณหญิงไม่ได้แล้วเหรอคะ ?”