บทละครโทรทัศน์ ตอนจบ รักเร่ ตอนที่ 15 (2/2) หน้า 19

อาพร้อมจิตสีหน้าตื่นเต้นมาก เมื่อเปิดประตูห้องมาเจอรามิลกับวายูนมาด้วยกัน “โอ๊ย..นึกว่าจะตามหายายวาไม่เจอเสียแล้ว” อาพร้อมจิตเห็นรามิลกับวายูนจูงมือกันอยู่ก็เข้าใจได้ทันทีว่าคู่นี้ปรับความเข้าใจกันได้แล้ว แต่ยังไม่ทันพูดอะไร ลีล่าก็วิ่งเข้ามาโดดกอดวายูนด้วยความดีใจที่ได้เจอแม่เสียก่อน
วายูนก้มลงอุ้มลูก รามิลโอบบ่าวายูนอย่างรักใคร่ อาพร้อมจิตมองภาพสามคน พ่อ-แม่-ลูกนั้น แล้วน้ำตาซึมด้วยความดีใจ
รามิลกำลังก้มลงกราบอาพร้อมจิตอย่างตั้งใจ มีวายูนอุ้มลีล่า นั่งอยู่ใกล้ๆ “ผมต้องกราบขอขมาต่อคุณพร้อม ในที่ผมได้เคยทำผิดพลาดไปกับวายูนครับ และผมขอสัญญาว่าต่อจากนี้ไปผมจะดูแลวายูนและลูกให้ดีที่สุด เพื่อชดเชยกับเวลาที่ผ่านมา”
“คนทำผิด ที่สำนึกได้แล้วว่าตนเองผิดนั้นสมควรให้อภัย” รามิลยิ้มทั้งน้ำตา ก้มลงกราบอาพร้อมจิตอีกครั้ง “ตอนนี้คุณก็คงรู้แล้วใช่ไหมว่า..ไม่มีความสุขใดเท่ากับความสุขที่มีครอบครัวที่อบอุ่น เข้าใจกัน ให้อภัยกัน ทำดีต่อกันเสียตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่เถอะนะ เพราะคนเราจะตายจากกันตอนไหนไม่รู้เลยคุณคงเข้าใจนะว่าที่ฉันพูดนี่หมายถึง “อะไร”
รามิลนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบ “ครับ”
ที่บ้านนิตยาที่กรุงเทพ นิตยาในตอนนี้ดูแก่และโทรมลงมากเพราะความเคียดแค้นชิงชังในใจ กำลังยืนคุมให้คนใช้ทะยอยเอาของ-ของรามิลลงมาเผา “เผามันให้หมด ของ-ของคนอกตัญญู เก็บไว้ก็เป็นเสนียดของบ้าน เติมน้ำมันเข้าไปอีกสิ เร็ว”
คนใช้ช่วยกันเผาของ-ของรามิลด้วยท่าทางเสียดาย แต่ก็ต้องทำตามคำสั่งนิตยาอย่างเสียไม่ได้ สักครู่ปัทมาเดินเข้ามาจากนอกบ้าน มาหยุดยืนมองดูว่าเผาอะไรกัน พอเห็นว่าเป็นอะไร ปัทมาก็ส่ายหน้าอ่อนใจ
นิตยาหันไปเห็นปัทมาเข้ามาในบ้านก็ยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ “แกมาที่นี่ทำไมอีกนังปัท แกก็อีกคน อีคนอกตัญญู”
ปัทมาไหว้นิตยาอย่างจำใจ “ปัทก็ไม่ได้อยากจะเหยียบที่นี่นักหรอกค่ะ ! แต่ลืมของไว้ ก็เลยต้องกลับมาเอา” ปัทมาเดินเข้าไปในบ้านเพื่อไปที่ห้องที่เคยอยู่
“คนอย่างแก ถ้าไม่ได้ฉันเก็บมาเลี้ยง แกก็คงจะไม่มีวันมีสมบัติพัสถานอะไรกับใครเขาหรอก” ปัทมาทำไม่สนใจ เดินหายเข้าไปในบ้าน นิตยายังตะโกนด่าตามหลังไปด้วยความ แค้นใจ “แต่ฉันคิดผิดจริงๆ น่าจะปล่อยให้แกอดตายอยู่ในสลัมจริงๆ”
นิตยาด่าจนเหนื่อยหอบ แล้วทันใดนั้น จู่ๆ นิตยาก็มีอาการเจ็บหัวใจขึ้นมาอย่างกะทันหัน ล้มตึง คนใช้ที่อยู่ตรงนั้นร้องวี๊ดว๊ายด้วยความตกใจกันใหญ่ทำอะไรกันไม่ถูก
“ว๊าย! คุณนิตเป็นอะไรไม่รู้ ทำยังไงดี ทำยังไงดี”