บทละครโทรทัศน์ บ่วงอธิฏฐาน ตอนที่ 22 หน้า 4
“เช่ารถ” โยสิตาเสียงสูงแปลกใจ
“ยังมีอีกหลายคัน คุณจะเช่าไหม”
ปารมี-โยสิตา แทบเป็นลม...เสียรู้ เสียค่าโง่ อย่างไม่น่าให้อภัยตัวเอง
บ้านกสินทร์ กวินทร์ถือสายรอจนกฤตธรรับสาย “พี่กฤต นี่มันเรื่องอะไรกันแน่” กวินทร์ยิงคำถามใส่
“อย่าเพิ่งถามอะไรตอนนี้ พี่เชื่อว่านายก็คงจะพอเดาอะไรออก เรื่องบางเรื่องอยู่เหนือความจริงที่ยากจะพิสูจน์..”
“แล้วนี่พี่กับอาจารย์เกรียงไปไหนกัน”
“อย่าเพิ่งรู้เลย รู้ไว้แค่ว่าอาจารย์เกรียงกำลังทำเพื่อเราทุกคน เท่านี้ก่อนนะนายวินทร์” กฤตธรตัดสาย
“เดี๋ยวก่อนพี่กฤต..พี่กฤต”
กสินทร์ยืนฟังอยู่ด้วยเอ่ยถาม “ถ้ามันเกี่ยวข้องกับศิลาจารึกแผ่นนั้น พ่อว่าพ่อเดาไม่ผิดว่าพวกเขากำลังไปไหนกัน”
ไซท์งานขุดค้น อธินกดรับโทรศัพท์ทันที “ว่าไงลูก”
“พ่อคะ โยคลาดกับพวกเขาแล้ว โยไม่แน่ใจว่าพวกเขาคิดจะทำอะไรกับศิลาจารึกแผ่นนั้นกันแน่ โยแน่ใจอย่างเดียว..พวกเขาต้องกำลังมุ่งหน้าไปที่ไซท์งานของพ่อแน่”
แสงวาบเหมือนฟ้าแลบ สาดเข้ามาเต็มๆ ฟ้าที่แจ้งจางปาง อยู่ดีๆ เกิดแนวเมฆฝนดำทะมึนก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและตามด้วยสายฟ้าแลบสว่างจ้า
ปารมีแปลกใจ “อะไรกันเนี่ย...”
“ฮัลโหล. ฮัลโหล พ่อคะ” สัญญาณถูกตัดขาด
“ไอ้โย แกหยุดใช้โทรศัพท์เดี๋ยวนี้ ฉันเสียว” ปารมีโวยลั่น สิ้นคำฟ้าผ่าลงมาท่ามกลางเมฆฝนดำทะมึน เสียงดังสนั่น ปารมีตกใจ “วี๊ด...ด...” โยสิตาใจหายแวบ อกสั่นขวัญผวา
ทุ่งโล่ง รถกระบะกฤตธรกับเกรียงแล่นมาตามทางลูกรัง บรรยากาศรอบตัวมืดสลัวลงเหมือนฟ้าดับ บนขอบฟ้าเมฆดำคืบคลานครอบคลุมอย่างรวดเร็วราวกับจะเกิดทอร์นาโด...ฟ้าแลบฟ้าผ่าเป็นระยะ
อธินแหงนมองดูท้องฟ้าที่มืดทะมึนลงอย่างรวดเร็ว...ทีมงานวิ่งกันอลหม่านเพราะจู่ๆ ลมแรงก็พัดเข้ามา..จนเต็นท์ที่พักที่ทำงานมีท่าทีว่าจะเดือดร้อนแน่
อธินตะโกน “ดูแลข้าวของให้ปลอดภัยด้วย..” อธินต่อสู้กับลมแรงแต่แทนที่จะหลบเข้าที่กำบัง อธินกลับตัดสินใจฝ่าลมแรงออกไปทางหนึ่ง