บทละครโทรทัศน์ บ่วงอธิฏฐาน ตอนที่ 22 หน้า 5
ทุ่งโล่ง บรรยากาศเหมือนหลุดเข้ามาสู่แดนสนธยา รถปารมีที่แล่นมาตามทางลูกรังนั้นเกิดเครื่องดับเอาดื้อๆ ปารมีโวยวาย “เฮ้ย...ย...อะไรจะมาเสียเอาตอนนี้”
“น้ำมันหมดรึเปล่าแก”
“ไม่ สาบานได้เมื่อวานฉันเพิ่งเติมเต็มถัง”
“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย จะถึงอยู่แล้วนะแก...เปิดกระโปรงหน้าฉันจะออกไปดูเอง” โยสิตาไม่ทันฟังคำคัดค้านก็เปิดประตูออกไปทันที โยสิตาเปิดฝากระโปรงรถขึ้น
“เกศอาภา....” โยสิตาได้ยินเสียงนั้นชัดเจน หันขวับไปมอง ร่างบุษกรยืนอยู่ไกลออกไปพอประมาณ โยสิตาผงะ “พวกเขากำลังจะทำลายศิลาจารึกแผ่นนั้นแล้ว..พ่อของเจ้าก็ไม่มีทางขัดขวางพวกเขาได้หรอก มากับข้าสิ..ข้าช่วยเจ้าได้” บุษกรหันกลับและเดินจากไป
โยสิตาถลันตาม “เดี๋ยวก่อน รอก่อน” บุษกรที่เดินจากไปเหมือนจางลงเรื่อยๆ เดินหายเข้าไปในหมอกควัน โยสิตาชะงัก หันกลับมาทางรถ “ผักบุ้ง..แกเห็น” โยสิตาชะงัก เพราะไม่มีรถ ไม่มีปารมี..รอบตัวมีแต่ความเวิ้งว้าง..ถูกทิ้งให้อยู่ลำพัง “ผักบุ้ง” โยสิตาตะโกน โยสิตาหันกลับไปทางบุษกร แต่ก็ไม่เห็นบุษกรแล้ว เบื้องหน้าคือทางลูกรังสีแดงที่ทอดยาวไม่จบสิ้น โยสิตาหันกลับมา ตะโกนเรียกปารมีสุดเสียง “ผักบุ้ง..ผักบุ้ง”
ปารมีถลันลงมาจากรถเพราะจู่ๆ โยสิตาก็หายไป “ไอ้โย...ไอ้โย...” ปารมีตะโกนเรียกสุดเสียง ปารมีเคว้งคว้างพอกัน เพราะเหมือนถูกทิ้งให้อยู่ลำพังในแดนสนธยา “ไอ้โย..แกอย่าเล่นยังงี้สิวะ”
ทุ่งโล่ง แผ่นศิลาวางอยู่กับพื้น ถูกเปิดผ้าคลุมออกมีสายสิญจน์ยังพันอยู่
“เราจะทำลายมันด้วยวิธีไหนครับอาจารย์” กฤตธรสงสัย
“ทุบให้แตกออกเป็นสองส่วน ส่วนนึงทิ้งให้จมลงก้นบึง อีกส่วนฝังดินบริเวณนี้”
เกรียง ยกศิลาจารึกขึ้นชูสุดแขนกะจะฟาดลงบนหินก้อนใหญ่ให้แตก..ท้องฟ้าที่มืดทะมึนมีสายฟ้าฟาดลงมาเป็นระยะ
“หยุดเดี๋ยวนี้คุณเกรียง” กฤตธรหันไป อธินก้าวเข้ามาเสียงกร้าว “ผมไม่ยอมให้คุณทำลายศิลาจารึกแผ่นนั้นเด็ดขาด..วางลง..ผมบอกให้วางลง”
“คุณอาครับ มันเป็นความจำเป็น” กฤตธรพยายามจะอธิบาย
“ความจำเป็นอะไรของพวกคุณ การค้นพบจันทรปุระเป็นเรื่องสำคัญของหน้าประวัติศาสตร์..ศิลาจารึกแผ่นนี้เป็นกุญแจสำคัญไปสู่ความรู้อีกมากมายเกี่ยวกับจันทรปุระ มันเป็นสมบัติของชาติ เป็นสมบัติของทุกคนไม่ใช่คนใดคนนึง วางลงซะคุณเกรียง ไม่อย่างนั้นคุณเจอข้อหาหนักแน่” อธินขู่
“คุณอธิน..ศิลาแผ่นนี้มันไม่ใช่ศิลาจารึกการสร้างเมืองอย่างที่คุณเข้าใจ แต่มันคือสิ่งอัปมงคล มันมีแต่พลังความชั่วร้ายในตัวมัน เพราะมันคือศิลาที่จารึกแต่คำสาปแช่ง ความเกลียดชัง ความแค้นของคนที่สร้างมันขึ้นมาจะทำลายล้างทุกคนที่เกี่ยวข้องกับมัน”