บทละครโทรทัศน์ บ่วงอธิฏฐาน ตอนที่ 14
ท้องพระโรง วังสูริยะ คีรินเข้ามาในท้องพระโรงที่ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าแล้ว
สูริยะไม่เห็นอริยะจึงเอ่ยถาม“อริยะมิสบายอีกแล้วหรือเยี่ยงไรคีริน”
“ข้าไปตามถึงเรือนพระชายาบุษกรแล้วแต่พระชายาแจ้งว่าองค์อริยะมิสบายจนลุกมิขึ้น คงเข้ามาร่วมประชุมด้วยมิได้”
สูริยะเป็นห่วง“ตามหมอหลวงไปตรวจดูอาการแล้วรึยัง”
“พระชายาว่าหมอหลวงไปตรวจดูแล้วก็มิได้ว่าเยี่ยงไร องค์อริยะแค่อ่อนเพลีย แลต้องพักผ่อนให้มากเท่านั้น”
สูริยะท่าทางกังวล หนักใจ กัมพูเสนอ “คืนพรุ่งนี้จันทราจักปรากฏเต็มดวงท่านควรถือโอกาสนี้ทำพิธีบวงสรวงสังเวยจันทรา แสดงคารวะต่อพลังอำนาจที่จันทราได้มอบให้แก่จันทรปุระเสียเถิด สิ่งอัปมงคลชั่วร้ายที่มองมิเห็นจักได้ถูกขจัดปัดเป่าออกไปให้สิ้น”
ปุณณะเห็นด้วย “เป็นเรื่องดี ข้าเห็นด้วย ราษฎรจักได้เกิดขวัญแลกำลังใจ”
“ท่านมหาพราหมณ์ สั่งการลงไปได้เลย คืนพรุ่งนี้พิธีบวงสรวงสังเวยจันทร์ จักต้องสมบูรณ์พร้อม มิมีสิ่งใดขาดตกบกพร่อง” สูริยะเอ่ยสั่ง บริวารต่างน้อมรับ
เรือนเกศอาภา เกศอาภา อุษา คีรินพร้อมหน้า
อุษาแน่ใจ “คืนที่จันทรามีพลังอำนาจสูงสุดข้าว่าพระชายาบุษกรก็ต้องคิดจักทำบางสิ่งบางอย่างเหมือนกัน”
คีรินเชื่อเช่นกัน “เจ้าคิดเหมือนกับข้า นางลงทุนไปแล้ว มิมีทางที่นางจักยอมขาดทุนดอก นางต้องอาศัยพลังแห่งจันทราเพื่อตัวนางเองด้วยเหมือนกัน”
“ก็แล้วจักทำอะไรล่ะ”
“เจ้ามิรู้แล้ว ข้าจักรู้ได้เยี่ยงไร”
“เจ้าก็คิดเข้าสิ คิดๆ ๆ ไหนคุยโวว่า ตัวเองฉลาดหลักแหลมนัก”
เกศอาภาเอ่ย “สงครามครั้งนี้เป็นเรื่องระหว่าง นางกับข้า แต่ข้าคิดมิถึงว่า นางจักใช้องค์อริยะแลจันทรปุระเป็นตัวประกัน”
เรือนบุษกร ตอนกลางคืน บุษกรสางผมให้อริยะ
อริยะมึนเบลอเหมือนสติอยู่กับตัวครึ่งเดียว“มือเจ้าเบา สางผมได้ถูกใจข้ากว่าใคร”