บทละครโทรทัศน์ บ่วงอธิฏฐาน ตอนที่ 21 หน้า 5
ห้องทำงานกสินทร์ กสินทร์ที่ดูเหนื่อยและท้อแท้เอ่ยกับเกรียง “ผมไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับครอบครัวผม”
“ไม่มีใครหนีกรรมของตัวเองไปได้” เกรียงพูดให้คิด
“ผมไม่เคยคิดร้าย คิดโกง เอาเปรียบใคร ไม่เคยคิด”
“คุณกสินทร์...ถึงกรรมในชาตินี้จะไม่เคยก่อ ก็อาจจะเป็นเวลาของการชดใช้กรรมในอดีตชาติ”
“อาจารย์กำลังปลอบใจผมใช่ไหม”
“คนเราเกิดมามีกรรมร่วมกัน ไม่อย่างนั้นไม่มีทางที่จะได้สัมพันธ์กันในชาตินี้หรอก บางคนเกิดมาเพื่อชดใช้หนี้กรรมเก่า บางคนเกิดมาเพื่อทวงหนี้นั้นคืน”
“ผมต้องยอมรับในสิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างนั้นใช่ไหมอาจารย์” เกรียงนิ่ง
บ้านรับรอง โยสิตารวบรวมข้าวของ ส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์จัดแสง ฉากกระดาษ
“เท่านี้เหรอแก” ปารมีเอ่ยถาม
“เท่านี้แหละ”
“นี่หมายความว่า ปิดจ๊อบกันเท่านี้ทั้งที่งานยังไม่ทันเสร็จ”
“มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ ช่างภาพคนอื่นมีตั้งเยอะ เดี๋ยวเขาก็หามาแทนฉันจนได้น่ะแหละ”
“ไปกันเหอะ...บรรยากาศในนี้มันไม่ค่อยเป็นมิตรกับฉันเท่าไหร่”
โยสิตากวาดตามองสำรวจอีกครั้งเผื่อหลงลืมอะไร แต่ก็ต้องชะงักเมื่อมองไปทางห้องทำงานเกรียง ในห้องเกรียงยังเปิดไฟสว่างแต่เหมือนไฟหลอดเสีย ติดๆ ดับๆ“แกขนของไปรอที่รถก่อนก็ได้ เดี๋ยวฉันตามไป ขอฉันเข้าไปลาอาจารย์เกรียงก่อน”
“มาด้วยกันก็ต้องกลับด้วยกันสิแก ฉันรออยู่นี่แหละ”
โยสิตาพยักหน้า เดินตรงไปที่ห้องทำงานเกรียง โยสิตาเคลื่อนเข้าไปหาห้องเกรียง ไฟในห้องยังติดๆ ดับๆ ประตูห้องแง้มเปิดคาไว้นิดหน่อย
ในห้องทำงานเกรียง โยสิตาดันประตูให้เปิดเข้ามา“อาจารย์คะ...อาจารย์”
ในห้องไม่มีใคร..แต่ไฟติดๆ ดับๆ เพราะหลอดใกล้เสื่อม โยสิตาเกือบจะกลับออกไป แต่ชะงักเสียก่อนเพราะเห็น
กลางห้องมุมเดิม..ศิลาจารึกตั้งอยู่ โยสิตาตะลึง อย่างไม่คาดคิดมาก่อน ไฟในห้องดับลงทันที..โยสิตาสะดุ้งเฮือกและต้องสะดุ้งอีกครั้งเพราะปารมีตามเข้ามาถึงตัวด้านหลัง
“แกไม่อยู่นี่..ไปเหอะ ไอ้โย”
“เดี๋ยว” โยสิตารีบขยับไปที่สวิตช์ไฟ พยายามเปิดไฟแต่ไมสำเร็จ “มือถือแกล่ะ ..มือถือ อยู่ไหน”