บทละครโทรทัศน์ บ่วงอธิฏฐาน ตอนที่ 3 หน้า 5
เกรียงเบนสายตากลับมาที่กสินทร์ “ครับ”
“พระจันทร์น่าจะสำคัญกับอาณาจักรนี้มากนะ อาจารย์ว่าไหม”
“ครับ..น่าจะสำคัญมาก” เกรียงเบนสายตาไปทางด้านหลังกสินทร์อีกครั้ง ร่างบุษกรลางๆ จางๆ เดินผ่านไป
ที่บ้านเกรียง พระจันทร์เหนือท้องฟ้ากรุงเทพยังไม่เต็มดวง แต่ความเจิดจำรัสท่ามกลางแสงสีของตึกระฟ้าเหมือนจะข่มแสงสีเบื้องล่างได้...เมฆสีเทาดำจางๆ เคลื่อนเข้าบังเล็กน้อย บุษกรหมอบจมพื้น ฟุบหน้าเหมือนก้อนซากอะไรสักอย่าง เกรียงอยู่ในสมาธิ หลับตานิ่งๆ อยู่หน้าโต๊ะหมู่บูชา
“ยอมรับความจริงให้ได้ แล้วความทุกข์ในใจจะทุเลาลง” เกรียงคุยด้วยฌาน
บุษกร ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นจากพื้น “ความจริงอะไรของท่าน”
“ความจริงว่า เจ้ากับเขาอยู่กันคนละภพละชาติแล้ว”
“ถึงจะคนละภพละชาติ ข้าก็ได้กลับมาเจอเขาอยู่ดี มันคือความจริงจากคำอธิษฐานของข้าต่างหาก”
“อย่าพยายามหนีความจริงหลอกตัวเองเลย”
“ข้าไม่เคยหลอกตัวเอง” บุษกรเกรี้ยวกราด “ความจริงเหนือความจริงทั้งหมดก็คือเขาเป็นของข้าผู้เดียวเท่านั้น”
เกรียงค่อยๆ ลืมตาขึ้นออกจากฌาน บุษกรที่อยู่เบื้องหลังเกรียงไกลๆ สลายตัวกลายเป็นก้อนหมอกควันสีดำแล้วหมุนวนกลางอากาศ ก่อนจะพุ่งมลายหายไปในแผ่นศิลาจารึกที่ตั้งไว้มุมหนึ่ง เกรียงค่อยๆ ทอดถอนลมหายใจ ความดื้อรั้นและมิจฉาทิฐิของบุษกรไม่เคยลดน้อยลงเลย
ตอนค่ำที่สระว่ายน้ำ กวินทร์ออกกำลังกายอย่างเอาจริงเอาจังใช้กำลังอย่างเต็มที่ เมธาวีนั่งคอยอยู่มุมหนึ่งข้างสนาม กวินทร์คูลดาวน์ตัวเองลงก่อนจะขึ้นจากสระ เมธาวีส่งผ้าให้กวินทร์เช็ดตัว
“วินทร์คะ อาทิตย์หน้าเราไปฮ่องกงกันดีกว่า” เมธาวีเอ่ยชวน
“ไปทำไม ช่วงเซลล์ มีแต่คนไปซื้อของลดราคา แย่งกันอยู่แย่งกันกินผมรำคาญ”
“แล้วใจคอจะไม่ยอมพักผ่อนบ้างเลยเหรอคะ”
“ก็นี่ไง วิธีพักผ่อนของผม”
“คุณสนุกคนเดียว เมย์ไม่เห็นจะสนุกด้วยเลย”
“ก็คุณมัวแต่มานั่งเฝ้าผมเฉยๆไม่ลงมาเล่นด้วยกัน แล้วมันจะสนุกได้ยังไงล่ะ” เมธาวีกัดฟัน ข่มใจไม่โต้เถียง “อาทิตย์หน้าผมยุ่งทั้งอาทิตย์ด้วย คุณอยากไปก็ชวนเพื่อนๆ คุณไปละกัน” กวินทร์ผละออกไปทางห้องอาบน้ำ-แต่งตัว ทิ้งเมธาวีไว้..นับวัน ทำไมอะไรๆ มันไม่ลงรอยกันเลย
กสินทร์คุยกับกฤตธร “ที่ริมทะเลแปลงใหญ่ขนาดนั้นมันจะยังมีเหลืออีกเหรอ”
“เขาส่งโฉนดแนบมาด้วยนะครับคุณพ่อ ปึกเบ้อเริ่มเลย”