บทละครโทรทัศน์ บ่วงอธิฏฐาน ตอนที่ 7 หน้า 4
“งั้นเจ้าก็น่าจะเป็นลูกชังของพ่อแม่ เจ้าคงดื้อเสียจนพ่อแม่เลิกสนใจ”
“เจ้าอย่ามาทำเป็นรู้ดี”
“ดูจากผ้าผ่อนที่เจ้านุ่ง ข้าก็พอจะรู้ว่าเจ้ามิใช่คนธรรมดา”
“เจ้านี่เดาอะไรก็ผิดหมดทุกสิ่ง หยุดเดาเอาเองเสียทีเถิด แล้วเจ้าล่ะ เป็นใคร”
อริยะหัวเราะ “อยากรู้ก็ลองเดาดูสิ”
“ถ้าข้าทายมิผิด เจ้าคงเป็นทหารขององค์สุริยะ ใช่รึไม่”
“ถ้าข้าตอบว่ามิใช่ล่ะ”
“จะบอกรึมิบอก”
“ข้าถามเจ้าก่อนเจ้าก็ต้องบอกข้าก่อนสิ”
เกศอาภาไม่ยอมจนมุม “ข้าไม่เห็นใคร่จะรู้เรื่องของเจ้าเลยสักนิด” เกศอาภาลุกเดินหนีออกไปทันทีอย่างตัดบท
อริยะเดินตามเกศอาภา “หากเกิดสงครามขึ้น เจ้าจักทำสิ่งไรเป็นสิ่งแรก”
เกศอาภาตอบแบบไม่คิดให้เสียเวลาเลย “ข้าจักตัดผมของข้าทิ้งแล้วจับดาบของข้าออกไปขับไล่ศัตรู”
“ชั่วชีวิตของเจ้าสิ่งนั้นคงไม่มีวันเกิดขึ้นดอก”
“เจ้ารู้ได้อย่างไร พ่อข้าพูดเสมอว่าท้องฟ้าที่สงบเงียบมิได้หมายความว่าพายุ จักมิก่อตัวขึ้น”
“องค์สูริยะเป็นกษัตริย์ที่ปกครองจันทรปุระด้วยราชธรรม สงครามจักไม่ก่อเกิดขึ้นดอก”
“สงครามจากภายนอกอาจมิเกิดขึ้นหากแต่คนใกล้ชิดองค์สูริยะนั่นแหละ จักก่อให้เกิดสงครามภายใน”
“เจ้าจับยามสามตาหยั่งรู้วันข้างหน้าได้ด้วยรึ” อริยะทีเล่นทีจริง
“ข้าเจอมาแล้วด้วยตัวข้าเอง อำนาจในมือคนบางคนจักนำพามาซึ่งความอยุติธรรม”
“คนเอาเรื่องอย่างเจ้า ยอมให้ใครรังแกด้วยรึ”
“นางอ้างว่านางเป็นลูกสาวท่านมหาพราหมณ์กัมพู”
“บุษกร..” อริยะเอ่ย
เกศอาภาแปลกใจ “นางคงเป็นคนสำคัญมาก ขนาดเจ้ายังรู้จักนางเลย”
“นางมีเรื่องอะไรกับเจ้า”
“นางอ้างว่านางเป็นเจ้าของโคมลอย ทั้งๆ ที่ข้าเป็นคนเก็บมันได้กับมือ”
อริยะอึ้ง “เจ้าว่าอะไรนะ”
“โคมลูกนั้นมันลอยตามลมมาจากไหนก็ไม่รู้ แล้วมันจะเป็นของนางได้อย่างไร เจ้าว่าไหม”
“เจ้าเป็นคนเก็บโคมลูกนั้นได้ก่อนนางรึ”
“ช่างมันเถิด อย่าไปพูดถึงมันเลย ข้ามิได้เสียดายมันสักนิด แต่เสียความรู้สึกมากกว่า นางใช้อำนาจอ้างบารมีพ่อนางข่มคนอื่นให้ต่ำกว่า..คนแบบนี้แหละน่ากลัวนัก จักเป็นภัยแก่แผ่นดินจันทรปุระ”เกศอาภาเดินนำออกไป
อริยะมองตาม ขบคิดอย่างหนักกับสิ่งที่ได้รับรู้