บทละครโทรทัศน์ รากนครา ตอน 10
บ่ายจัด ในป่า ขบวนม้าของหน่อเมือง เดินทางผ่านป่า เขามุมต่างๆ พระอาทิตย์กำลังคล้อยต่ำลงเรื่อยๆ เห็นขบวนม้าหน่อเมือง เคลื่อนผ่าน
จนถึงกลางคืน ที่พักกลางป่า กองไฟจุดสุมไว้ หน่อเมืองนอนหลับอยู่มุมหนึ่ง เสียงฝีเท้าม้าฝูงหนึ่งกระทบพื้น และเหมือนเสียงนั้นดังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นเสียงอึกทึกใกล้ตัว หน่อเมืองผวาตื่นด้วยสัญชาติญาณและคว้าดาบที่วางไว้ข้างตัวทันที ลูกน้องตะโกน “ข้าศึกโจมตี..ข้าศึกโจมตี”
กองกำลังไม่ทราบฝ่าย จู่โจมเข้ามาด้วยกองม้า ลูกน้องหน่อเมืองที่ขึ้นม้าไม่ทันออกรับหน้าศัตรู หน่อเมืองประจัญบานกับศัตรูบนหลังม้า แต่ดูเหมือนเสียเปรียบ ลูกน้องเข้ามาช่วยหน่อเมือง
“เจ้าอุปราช หนีไปก่อน” หน่อเมืองถอยออกมาและตรงไปที่ม้าของตัวเอง กระโจนขึ้นม้า แล้วควบหนีออกไปในความมืด
หน่อเมืองควบม้าหนีฝ่าความมืดมา และเหมือนจนมุมที่หน้าผาแห่งหนึ่ง หน่อเมืองชักม้าหันกลับมาเผชิญหน้าศัตรู กลุ่มกองกำลังไม่ทราบฝ่าย บนหลังม้าดูทะมึนน่าเกรงขาม ศาตราวุธต่างๆถูกซัดออกมาจากกองกำลังนั้น ทั้งลูกธนู หอก ดาบ พุ่งเข้ามาหา เสียงอ่านคำสาปแช่งโองการ แช่งน้ำในพิธีคือน้ำฯ ดังขึ้นในโสตประสาทของหน่อเมือง อาวุธมีคมทุกชิ้นปักเข้าทิ่มแทงหน่อเมือง ทั้งที่พยายามปัดป้องด้วยดาบในมือ หน่อเมืองพลัดตกจากหลังม้า ร่างหน่อเมืองที่มีอาวุธคมปักติดลอยละลิ่ว
พยายามไขว่คว้าอากาศ ดิ่งหายไปในความมืดลึกเบื้องล่าง
ที่พักกลางป่า หน่อเมืองผวาตื่นด้วยความตกใจสุดขีด เหงื่อเต็มหน้า หน่อเมืองคว้าดาบข้างกายมากระชับด้วยสัญชาติญาณ ไฟในกองไฟใกล้มอดดับแล้ว หน่อเมืองนึกถึงตอนให้สัตย์สาบานในพิธีถือน้ำฯ ฟืนท่อนใหม่ถูกโยนใส่กองไฟ “ข้าต่างหากคือผู้กำหนดชะตาชีวิตของตัวข้าเอง”
ไฟลุกโชนขึ้นจากฟืนท่อนใหม่ที่ถูกโยนเข้าไป
เรือนที่พักมิ่งหล้า ตอนค่ำ ข่ายคำตกใจ “ค่ำมืดอย่างนี้น่ะรึ ลูกจะเข้าไปในพระราชวัง”
“ลูกให้ฟองจันทร์ไปสืบข่าวมาแล้ว คืนนี้ในพระราชวังมีงานรื่นเริงมหรสพ”
“พระราชินี สั่งให้มีมหรสพคืนนี้เป็นพิเศษเจ้า ผู้คนเข้าออกไม่ใช่น้อย”
“เจ้าแม่ไม่ต้องเป็นห่วงลูก ลูกมั่นใจ ว่าคืนนี้เป็นโอกาสอันดีของลูก พระราชินีเสด็จออก ยังไงองค์กษัตริย์ก็ต้องเสด็จออกด้วยเหมือนกัน”