บทละครโทรทัศน์ รากนครา ตอน 18 หน้า 4
ตำหนักปัทมสุดา ขิ่นแหม่รับคำสั่งจากปัทมสุดา
“จัดบำเหน็จเป็นเงินและทองส่งออกไปให้ลูกเมียของมัน บอกมันว่าเป็นสินน้ำใจจากข้า ตอบแทนที่มันทำงานเพื่อข้าแลราชสำนักด้วยความภักดีมาตลอด กำชับพวกมันด้วยให้อพยพโยกย้ายกันออกไปให้พ้นเขตเมือง ให้ไกลเกินกว่าคนในราชสำนักจะตามตัวพบ”
“เพคะ หม่อมฉันน้อมรับพระบัญชาใส่เกล้าใส่กระหม่อม แต่มิพญาเพคะ ทรงสงสัยอย่างที่หม่อมฉันสงสัยรึไม่เพคะ”
“ฎีกาฉบับนั้นมันเป็นฝีมือของใคร อย่างนั้นใช่ไหม ขิ่นแหม่”
ตำหนักมิ่งหล้า มิ่น มิ่งหล้า และฟองจันทร์ วางแผนต่อไป
“ข้าผ่านพ้นความตายมาแล้ว ไม่มีอะไรที่ข้าต้องกลัวอีกแล้ว”
“ข้ารู้ ว่าเจ้ากล้าหาญ แต่ช่วงเวลานี้จงใช้ความฉลาดของเจ้าเพื่อรักษาชีวิต ให้รอดเสียก่อนเถิด”
ฟองจันทร์เปรย “พระนางปัทมสุดากำลังส่งคนออกไล่ล่าตัวเจ้า ที่ตำหนักนี้ก็ไม่พ้นที่จะถูกค้นเหมือนกัน”
“เจ้ากับข้าลงเรือลำเดียวกันแล้วเจ้ารอด ข้าก็รอดเหมือนกัน”
ห้องกษัตริย์ กษัตริย์นั่งหันหลังอยู่มุมหนึ่ง ท่าทางปวดหัวกับเรื่องที่เกิดขึ้น กรมวังเดินนำขบวนมหาดเล็กที่อัญเชิญเครื่องเสวยเข้ามาตั้ง กษัตริย์ ยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม เจ้าพนักงานจัดวางอาหารเสร็จ กรมวังก็โบกมือไล่ให้ออกไปทุกคน รวมทั้งตัวเองด้วย กษัตริย์ขยับตัว ลุกเดินมา แต่แล้วชะงัก
มหาดเล็กหมอบกราบราบอยู่กับพื้นนายหนึ่ง “เราบอกแล้วใช่ไหม เราต้องการอยู่ตามลำพัง”
“ถึงจะต้องอาญาที่ขัดพระประสงค์ หม่อมฉันก็ยินดีเพคะ” กษัตริย์ชะงัก
มหาดเล็กในเครื่องแต่งกายชายที่หมอบอยู่นั้นค่อยๆเงยหน้าขึ้น “เจ้า”
“หม่อมฉันสิ้นหนทางที่จะกราบทูลให้ทรงทราบ..เห็นแต่เพียงวิธีนี้วิธีเดียว ถึงรู้ว่าเสี่ยงขนาดไหนหม่อมฉันก็ยอมเพคะ” กษัตริย์ก้มลงดึงตัวมิ่งหล้าให้ลุกขึ้นนั่ง
“หม่อมฉันรู้ดีว่าในช่วงเวลานี้ทรงกำลังลำบากพระทัยเพียงใด แต่เพื่อความมั่นคงแห่งเศวตฉัตรและราชบัลลังก์เมืองมัณฑ์ หม่อมฉันจำเป็นต้องทำ”
“เจ้ากำลังจะบอกอะไรเรา”
“ฎีกาฉบับนั้นหม่อมฉันเป็นคนทูลเกล้าถวายเองเพคะ” กษัตริย์ตะลึง มิ่งหล้าแสดงความมุ่งมั่นกล้าหาญด้วยการสบสายตากษัตริย์