บทละครโทรทัศน์ รากนครา ตอน 22 หน้า 4
“เราให้เขียนจันทร์คำแก้วไปทำความสะอาดเฉยๆ เรือนปิดเอาไว้นานๆจะทรุดโทรมเสียเปล่าๆไม่มีอะไรหรอก” แม้นเมืองเหมือนถูกขยี้ให้เจ็บปวด..ความลับนี้จะต้องเป็นความลับไปอีกนานเท่าไร
“อ้อ...เจ้า..บัวผันจะได้เลิกสงสัยซะที”
ห้องทำงาน คุ้มเจ้าศุขวงศ์ สายตาใครสักคน มองที่หน้าห้องทำงานศุขวงศ์ เหมือนแอบดูแอบมอง...เห็นที่โต๊ะทำงาน มีเอกสารมากมายรวมทั้งแผนที่ ศุขวงศ์ทั้งอ่านทั้งจดบันทึกเก็บข้อมูลหลายอย่าง
ศุขวงศ์เริ่มรู้สึกเหมือนถูกสอดแนมจากผู้บุกรุก “นั่นใคร”
ในจังหวะเดียวกัน ศุขวงศ์คว้าดาบแล้วพรวดเดียวก็มาถึงประตู แม้นเมืองนิ่งไม่สะทกสะท้าน
“ข้าเจ้าเองเอง”
“มีอะไร แม้นเมือง”
“ข้าเจ้าจะมาเอาชุดเดินป่าของเจ้าไปตรวจดู เผื่อว่ามีตรงไหนจะต้องซ่อมปะชุน จะได้ทำให้เสร็จก่อนเจ้าเดินทาง”
“ไม่เป็นไรหรอก ไปเชียงใหม่ครั้งนี้ พี่คงไม่ใช้ชุดเดินป่า น้องคงไม่ต้องลำบากหรอก”
แม้นเมืองเดินเข้าไปในห้อง หยิบชุดเดินป่านั้นออกมา
“ไม่ได้เป็นเรื่องลำบากอะไร อย่าให้ข้าเจ้าได้ชื่อว่าบกพร่องในหน้าที่ของตัวเองเลย”
แม้นเมืองเดินออกไป ศุขวงศ์ อึดอัดกับบรรยากาศการตั้งแง่งอนประชดประชัน
เรือนเล็ก มิ่งหล้าเพิ่งตื่น นอนตัวงอ ร้องคราง “ฟองจันทร์...ฟองจันทร์”
แม้นเมืองรีบขยับเข้ามาใกล้... “น้องจะเอาอะไรมิ่งหล้า”
มิ่งหล้าพอเห็นว่าเป็นแม้นเมืองก็เงียบ เลิกร้องคราง
“ฟองจันทร์ไปกินข้าว น้องจะเอาอะไรก็บอกพี่เถอะ”
มิ่งหล้ามองแม้นเมืองแว่บเดียวก็เมินหน้าหนี
“น้องยังโกธรเคืองพี่ขนาดนี้เชียวหรือ พี่รู้ว่าพี่เป็นฝ่ายผิด พี่เป็นคนเห็นแก่ตัว เป็นคนสับปรับ ไม่รักษาแม้แต่คำสัญญาสาบาน...พี่ยกข้ออ้างเป็นเรื่องบ้านเมือง ทั้งที่ความเป็นจริงคือพี่มามีความสุขอยู่ที่นี่ ปล่อยให้น้องต้องไปเผชิญความทุกข์แสนสาหัสที่เมืองมัณฑ์ พูดกับพี่สักคำเถอะมิ่งหล้า จะด่าประณามพี่ยังไงก็ได้ระบายความทุกข์ในใจน้องออกมาบ้าง เผื่อความเจ็บปวดมันจะได้ทุเลาลง..”
มิ่งหล้าเม้มปากกัดฟันแน่นไม่ยอมพูดอะไร เพราะรู้ดีแก่ใจว่าความทุกข์ทรมานที่กำลังเผชิญนั้นมาจากความทะเยอทะยานของตัวเอง