บทละครโทรทัศน์ ลิขิตริษยา ตอนที่ 8
หลวงเดชนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่มุมหนึ่ง ซ่อนกลิ่นเดินเข้ามานั่งลงใกล้ๆ อย่างหงุดหงิด หลวงเดชเห็นซ่อนกลิ่นก็หันมาถามอย่างแปลกใจ “หายไปไหนมา พี่นึกว่าน้องจะอยู่ส่งแขกกับพี่”
“น้องหลบไปร้องไห้มาค่ะ”
หลวงเดชชะงักทันที “ร้องไห้ทำไม ใครทำอะไรน้องรึ”
“ก็ คุณหญิงมณีน่ะสิคะ ดูแคลนน้อง ว่าน้องเป็นเพียงเมียบ่าว ไม่มีหัวนอนปลายเท้า น้องฟังแล้วรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเหลือเกินค่ะคุณพี่” ซ่อนกลิ่นแสร้งทำมารยาร้องไห้โฮ
หลวงเดชสงสารจับใจ ดึงซ่อนกลิ่นเข้ามากอดไว้ “ไม่เอาน่าคนดี คุณหญิงมณีคงไม่มีเจตนาจะพูดให้น้องเสียใจหรอก”
“ไม่จริงค่ะ คุณหญิงมณีเป็นเพื่อนรักของคุณโฉม คงจะเจ็บแค้นที่น้องมาเป็นเมียคุณพี่อีกคน ถึงได้พูดให้น้องเจ็บช้ำน้ำใจเช่นนี้”
หลวงเดชถอนหายใจอย่างหนักใจ “อย่าคิดมากเลยนะ น้องมีพี่ที่รักน้องอยู่ทั้งคน พี่ไม่เคยมองว่าน้องต่ำต้อยไปกว่าใคร ใครจะว่าอย่างไรก็ช่างเขาเถอะนะ” ซ่อนกลิ่นได้ทีทำร้องไห้ออเซาะต่อ
โฉมฉายกำลังกล่อมบวรยศนอนอยู่บนเตียง เจิมนั่งที่พื้นมองอย่างเอ็นดู ก่อนจะหาวออกมา โฉมฉายหันมาทางเจิม “ไปนอนเถอะเจิม ฉันอยู่คนเดียวได้”
“แต่บ่าวเป็นห่วงคุณโฉม กลัวอีซ่อนกลิ่นมันเข้ามาทำร้ายคุณโฉมกับคุณหนูเจ้าค่ะ มันยิ่งอยากมาแทนที่คุณโฉมฉายอยู่ด้วย”
“ช่างเขาเถอะเจิม เจิมไม่ต้องห่วงหรอก ถ้ามีใครเข้ามาทำอะไร ฉันจะร้องเรียกให้มาช่วยเอง”
“แต่...”
“เชื่อฉันเถอะเจิม ไปนอนนะ”
“เจ้าค่ะ” เจิมพยักหน้ารับอย่างไม่ค่อยเต็มใจ เจิมลุกขึ้นเปิดประตูออกไป
โฉมฉายมองบวรยศอย่างห่วงใย “ไม่ว่าใครก็มาแทนที่แม่และลูกไม่ได้ แม่จะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเราได้” โฉมฉายชะงักนึกขึ้นได้ เปิดลิ้นชักหัวเตียงพลันหยิบสร้อยคอที่มีจี้สลักชื่อสกุล บริรักษ์ เอาไว้ ขึ้นมาดู “บวรยศคือลูกชายคนเดียวของหลวงเดชบริรักษ์ จำไว้นะลูก” โฉมฉายสวมสร้อยให้บวรยศพลันหอมลูกอย่างแสนรัก
เช้าวันต่อมา นพในชุดทำงานเดินเข้ามาบริเวณเรือนหลวงเดช
ผลเช็ดรถอยู่หันมาทักทาย “คุณนพมาแต่เช้าเลยนะขอรับ”
“วันนี้ฉันต้องไปท่าเรือกับคุณหลวงน่ะลุงผล”
“ขอรับ คนหนุ่มขยันอย่างคุณนพ ต่อไปต้องได้เป็นเจ้าคนนายคนเป็นแน่เลยขอรับ”
นพยิ้มรับกับผล แต่แล้วเสียงกรีดร้องของพิศก็ดังมาจากเรือนเล็กด้านหลัง นพชะงักตกใจขึ้นมาทันที “เสียงใครรึลุงผล”
ผลอึกอักไม่รู้จะบอกนพยังไงดี “เสียง... เอ่อ...คุณพิศขอรับ”
“คุณพิศเป็นอะไรรึ” นพแสดงท่าทีเป็นห่วง แต่ผลไม่รู้จะอธิบายยังไง