บทละครโทรทัศน์ แม่อายสะอื้น ตอนที่ 2 หน้า 5
ลานกลางหมู่บ้าน หนานเมือง สีหน้าเครียดเสียงดัง “มีหลักฐานอะไรถึงจะมากล่าวหาชั้น”
“ยอมรับมาเถอะลุงหนานเมือง คนที่ไปเอาเครื่องดนตรีครูคำปันมาคือลูกน้องลุงใช่ไหม หรือต้องให้ฉันหามันให้เจอ” หนานเมืองรีบโกรธกลบเกลื่อน “ไอ้ทอน! นี่เอ็งกล้าพูดแบบนี้กับข้าเหรอ”
รินคำไปกอดแขน “พี่ทอน ทำไมพี่พูดกับพ่อชั้นแบบนี้ล่ะจ๊ะ”
ทอนดึงแขนออก “นี่พี่ยังไม่พูดถึงเรื่องคนที่จับดาวนิลไปขังไว้นะ”
รินคำสะดุ้งแล้วก็ทำเป็นโมโหกลบเกลื่อน “นังดาวนิลมันใส่ความอะไรชั้น นี่รวมหัวกันทั้งพ่อทั้งลูกใส่ร้ายชั้นกับพ่อเหรอ ผู้ใหญ่อย่าไปหูเบาเชื่อมันนะ”
“โห พูดแบบนี้เหรอ” ช่อเอื้องจะเข้าไปเอาเรื่องแต่ดาวนิลห้ามไว้
“หนานเมือง ชั้นก็รู้นะว่าหนานเมืองไม่พอใจที่ชั้นเอางานมาให้ทางนี้ แต่น่าจะเห็นแก่หน้าชั้นบ้าง ถ้างานพังขึ้นมา คนที่เสียก็คือชั้นด้วยนะ”
“นี่แปลว่าผู้ใหญ่เชื่อคำพูดมันเหรอ แบบนี้ไม่ยุติธรรมนะ”
“พอเถอะครับผู้ใหญ่” ครูคำปันพูดกับหนานเมือง ฎที่ชั้นเชิญผู้ใหญ่มาที่นี่ ไม่ใช่เพราะจะมาหาคนผิดอะไรหรอก งานมันผ่านไปแล้วชั้นก็ไม่ได้ติดใจอะไร แต่ชั้นอยากมาพูดกับหนานเมืองให้รู้เรื่อง เลยเชิญผู้ใหญ่มาเป็นพยาน”
“พูดอะไร”
“คนทำอาชีพเดียวกันจะแข่งขันกันก็ไม่แปลก แต่ศิลปะล้านนาเหลือแสดงอยู่ไม่กี่คณะ แข่งขันกันไปจนไม่เหลือใคร สุดท้ายก็จะเป็นการแสดงล้านนาที่หายไป สู้เราเห็นแก่ศิลปะพื้นบ้าน แล้วร่วมมือกันดีกว่าไหม ศิลปะ
ล้านนามันจะได้อยู่ตลอดไป”
“ว่าไงหนานเมือง ที่ครูคำปันเขาพูดก็มีเหตุผลอยู่นะ”
“ชั้นก็ไม่อยากจะมีเรื่องกับใครอยู่แล้ว ตามนั้นละกัน”
“งั้นที่ผ่านมาแล้วก็ให้แล้วๆกันไปละกันนะ ถือว่าเริ่มต้นกันใหม่”
หนานเมืองยืนมือให้ครูคำปันจับ ทั้งคู่จับมือกัน ทั้งรินคำทั้งช่อเอื้องมองอย่างไม่พอใจนัก
ทางกลับบ้านครูคำปัน ครูคำปัน ดาวนิล ช่อเอื้องทุกคนเดินมาตามทางเกือบถึงบ้านแล้ว
“พี่คิดว่าลุงหนานเมืองกับรินคำจะยอมหยุดจริงๆเหรอ ชั้นว่าก็แค่ยอมเพราะไม่อยากโดนจับผิดหนนี้มากกว่า”
“พ่อว่ายังไงก็ตามนั้นเถอะ ไหนๆงานก็ผ่านไปได้แล้ว”
“พี่นะชอบยอมคนเหมือนพ่อไม่มีผิด เป็นชั้นนะจะสู้ให้ถึงที่สุดเลย”