บทละครโทรทัศน์ ศรีอโยธยา ตอนที่ 16 หน้า 3
พิมาน : ไม่มีครับ อันนี้ยังไม่มี
บุษบาบรรณ์ : ดิฉันเคยได้ยินสมเด็จพระพันวัสสาท่านรับสั่งว่า จิตใจมนุษย์นั้นยากแท้ที่จะหยั่งถึง ไม่มีสิ่งใดมาวัดได้เลย
เรือนเจ้าพระยาพิชัย พ.ศ.2307 โขนกำลังแสดงหน้าพระที่นั่ง สมเด็จพระพันวัสสาประทับอยู่บนพระแท่น โดยมีบุษบาบรรณ์ถวายงานพัด เจ้าจอมราตรี นั่งเฝ้าอยู่ไม่ห่างนัก เจ้าพระยาพิชัยชาญฤทธิ์ หลวงไกรรณฤทธิ์ นางทองประศรี ภรรยา และคุณทองหยิบ เข้าเฝ้าอยู่ ส่วนลูกจันทน์และข้าหลวงคนอื่นๆ หมอบเข้าเฝ้าอยู่ห่างๆ
สมเด็จพระพันวัสสา : ไม่ได้กลับเรือนมานานหลายปี ที่นี่ยังร่มรื่นเหมือนเดิมทุกยามไป ท่านเจ้าพระยาจำได้ไหม ฉันกลับเรือนครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
เจ้าพระยาพิชัยฯ : เท่าที่จำได้ เสด็จตอนที่บุษบาถือกำเนิดพะย่ะค่ะ ทรงรอจนแม่บัวคลอด แล้วจึงพระราชทานชื่อว่าบุษบา
สมเด็จพระพันวัสสา : คิดถึงคุณหญิงบัวนะ ถ้าเขายังอยู่ ก็คงจะปลาบปลื้มในตัวเจ้าไม่น้อยนะ บุษบา ที่เติบโตขึ้นมาเป็นสตรีที่งามทั้งกายใจเช่นนี้ แม่เจ้าก็เป็นสตรีที่งามไม่แพ้เจ้าเลย บุษบา งามทั้งจริตกริยา งามทั้งใจ พ่อเจ้าถึงไม่มีสายตา สายใจไปมองหญิงอื่น ตกพุ่มหม้ายมาจนถึงเดี๋ยวนี้ จริงไหมท่านเจ้าพระยา
เจ้าพระยาพิชัยฯ : พะย่ะค่ะ
สมเด็จพระพันวัสสา : แต่ก็ดีแล้วล่ะ จะหาชายใดที่ใจเดียว รักเดียว เช่นเจ้าพระยาพิชัย หายากในปฐพี หลวงไกร กับ บุษบา เจ้ามีบุญเหลือเกินนะ ที่พ่อเจ้าไม่หาแม่เลี้ยงเข้าเรือน ตั้งแต่พวกเจ้ายังเล็กๆ ดูเอาเถอะ แค่นางเล็กๆ ก็ไม่มี นี่ทองหยิบใช่ไหม ไม่เคยพบหน้ากันเลย มา มา มา..เข้ามาใกล้ๆ
หลวงไกรฯ : คลานเข้าไปเฝ้า แล้วถวายบังคมด้วย เข้าใจไหม
ทองหยิบ : ถวายบังคมพะย่ะค่ะ
สมเด็จพระพันวัสสา : ช่างน่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกิน
พระพันวัสสาทรงปลดปิ่นทองน้อยออกมาจากพระเกศามวย ประทานแก่ทองหยิบ
สมเด็จพระพันวัสสา : มา ข้าให้...มา เข้ามา
สมเด็จพระพันวัสสาทรงปักปิ่นลงบนมวยจุกของทองหยิบ
สมเด็จพระพันวัสสา : นี่ข้าจะนับญาติกับเจ้ายังไงดี ไม่ใข่ย่าแล้วสิ ต้องเป็นทวดแล้วสินะ
ทองหยิบ : ใช่พะย่ะค่ะ สมเด็จทวด
สมเด็จพระพันวัสสา : แน่ะ นี่ใครบอกเจ้านี่
ทองหยิบ : พ่อบอกพะย่ะค่ะ