บทละครโทรทัศน์ ศรีอโยธยา ตอนที่ 10 หน้า 4
คุณทองหยิบ: พี่ลูกจันทน์นั้นแหละ...ดีกว่า
ลูกจันทน์: พี่สงสารคุณเจ้าขาจริงๆ นะเจ้าคะ ท่านรอของท่านมานมนานกาเล ท่านคงอยากอยู่ด้วยกันนานๆ ให้เวลาท่านอีกสักหน่อยเถิดเจ้าค่ะ..คุณทองหยิบ
คุณทองหยิบ: คุณอาเจ้าขาไม่เคยมีความสุขอย่างนี้มานานแล้ว
ลูกจันทน์: นั่นไง...ท่านมาแล้ว...
พิมาน: นี่ก็คงเป็นอาวุธสงครามของจริงอีกใช่ไหมครับ
บุษบาบรรณ์: ใช่เจ้าค่ะ เป็นอาวุธซึ่งตกทอดมาตั้งแต่สมัยกรมพระราชวังหลังในแผ่นดินสมเด็จพระเพทราชาซึ่งท่านมีศักดิ์เป็นท่านทวดของดิฉันจนตกทอดมาถึงมือเจ้าพระยาพิชัยชาญฤทธิ์ เจ้าคุณพ่อของดิฉันเจ้าค่ะ
พิมาน: ถ้าจริงอย่างที่คุณพูด...คุณก็คงอายุเกินสองร้อยปีสิครับ
บุษบาบรรณ์: ในโลกข้างนอกก็คงจะใช่เจ้าค่ะ
พิมาน: คุณหมายความว่าอะไร...โลกข้างนอก
คุณทองหยิบ: คุณอาเจ้าขาสมควรแก่เวลาแล้วเจ้าค่ะ
บุษบาบรรณ์: จ้ะ...ทองหยิบ
พิมาน: สมควรแก่เวลาอะไรครับ...
บุษบาบรรณ์: ก็สมควรแก่เวลาที่คุณพระควรจะต้องกลับออกไปแล้วเจ้าค่ะ
พิมาน: ผมยังอยากชมเรือนของคุณมากกว่านี้อีก
บุษบาบรรณ์: มาชมอีกตอนกลางวัน คุณพระจะได้เห็นทุกอย่างชัดเจนมากกว่านี้เจ้าค่ะ
พิมาน: ก็คงจะจริง เอ้า ตายจริง ป่านนี้เพื่อนผมคงรอผมแย่แล้วล่ะ
บุษบาบรรณ์: เชิญคุณพระดื่มน้ำมะตูมก่อนนะเจ้าคะ น้ำมะตูมที่เรือนนี้ รสชาติกลมกล่อมไม่เหมือนที่เรือนอื่นๆ
พิมาน: ผมจะขอกลับมาพรุ่งนี้ ถ้าคุณจะกรุณา
บุษบาบรรณ์: ดิฉันยินดีต้อนรับคุณพระเสมอมา ไม่ใช่หรือเจ้าคะ
ลูกจันทน์ร้องเพลงนกจาก
ลูกจันทน์: พระโหยหวน...ครวญเพลง...วังเวงจิต ให้คนคิด...ถึงถิ่น...ถวิลหวัง..เอย...
บุษบาบรรณ์: ถ้ารู้สึกง่วงก็นอนพักสายตาสักนิด ให้สบายก่อนเถอะเจ้าค่ะ...
ลูกจันทน์: ว่าจากเรือนเหมือนนกที่จากรัง
อยู่ข้างหลังก็จะแล ชะแง้คอยเอย
น้ำตาของบุษบาบรรณ์ค่อยๆไหลมาอาบแก้ม...สะท้อนแสงโคมเป็นประกายราวกับหยาดเพชร
บุษบาบรรณ์: คุณพระจำอะไรไม่ได้เลย