บทละครโทรทัศน์ นาคี ตอนที่ 20 หน้า 2
“ลาข้า? เอ็งจะลาไปไหน?“ คำปองมองคำแก้วอย่างหวาดหวั่นว่าคำแก้วจะไปที่ไหน
“ฉันจะลาแม่ไปถือศีลจ้ะ” คำแก้วพูดด้วยแววตามุ่งมั่น
คำแก้วลงบันไดบ้านคำปอง จะรีบไปที่เทวาลัย “ฝากบอกคุณทศพลด้วยนะจ๊ะแม่ ตะวันตกดินเมื่อไหร่ฉันจะกลับไปหาเค้าเอง”
แขนของคำแก้วที่พ้นจากแขนเสื้อ เมื่อถูกแสงแดด เริ่มขึ้นเกล็ดจะกลายร่างเป็นงู คำแก้วรีบเอามือซ่อนไว้ที่ด้านหลัง กลัวว่าแม่จะเห็นเข้า
“แค่ไปถือศีล ทำไมเอ็งไม่บอกผัวเอ็งเองล่ะ เขาจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”
“แม่.... ฉันต้องรีบไปแล้ว “ คำแก้วพูดจบก็รีบวิ่งหายไปในดงไม้
“คำแก้ว !!” คำปองวิ่งตามคำแก้วไป ทว่า ร่างคำแก้วหายไปแล้ว “นังคำแก้วมันจะรีบร้อนทำไมนักหนา เทวาลัยไม่หนีไปไหนสักหน่อย” คำปองเท้าสะเอวมองตาม อดสงสัยในท่าทีแปลกๆของคำแก้วไม่ได้
คำแก้วมาถึงเชิงบันไดเทวาลัย เกล็ดขึ้นตามเนื้อตัวหนาและชัดเจนขึ้น คำแก้วแหงนขึ้นไปมอง เห็นพระอาทิตย์ส่องแสงจ้า ยิ่งถูกแสงอาทิตย์ เกล็ดยิ่งขึ้นชัดเจน คำแก้วฝืนสังขารที่กำลังจะกลายเป็นงูเผือก ตะเกียกตะกายขึ้นบันไดเทวาลัย
คำแก้วกระเสือกกระสนเข้ามาภายในเทวาลัย ล้มลง ท่อนขาขึ้นเกล็ด เตรียมจะกลายเป็นงูแล้ว คำแก้วตะเกียกตะกายเข้าไปภายในซุ้มประตูที่ลงสู่ถ้ำใต้ดิน มีแสงกระเพื่อมพรายเล็กน้อย ทันทีที่คำแก้วลอดซุ้มประตูเข้าไปก็กลายร่างเป็นเจ้าแม่นาคีกายทิพย์ เกล็ดหายไป
เจ้าแม่นาคีในสภาพอิดโรยเข้ามาในถ้ำ
“เจ้าแม่ !!!! “
เลื่อมประภัส ฉัตรสุดาช่วยกันประคองเจ้าแม่นาคีมายังแท่นหิน
“กายหยาบของข้าจักกลับกลายเป็นงูเมื่อต้องแสงอาทิตย์”
“เป็นเพราะอำนาจของดาบเหล็กไหล แม้บาดแผลภายนอกจักหายดีแล้ว แต่อาถรรพ์ของดาบเหล็กไหลยังอยู่ ร่างที่เจ้าแม่สิงสู่จึงมิอาจต้านทานต่อแสงอาทิตย์”
“ดาบเหล็กไหลทำให้ข้าสูญเสียพละกำลังไปมาก จนข้ามิอาจฝืนอยู่ในร่างมนุษย์ตอนกลางวันได้”
“เพลานี้ดาบเหล็กไหลอยู่ในเงื้อมือพวกคนชั่ว เจ้าแม่ควรประทับอยู่แต่ในเทวาลัย อย่าเพิ่งออกไปภายนอกเลยนะเจ้าข้า”