บทละครโทรทัศน์ ไฟล้างไฟ ตอนที่ 10 หน้า 2
ศิรินธารมองลีลารู้ว่ากำลังโดนต้อน นรุตม์มองอาการของศิรินธารที่กำมือแน่นท่าทางแค้นใจ มองลีลาที่สีหน้าไม่ได้เยาะแต่สายตาสะใจมาก ทุกคนมองศิรินธารอย่างลุ้นๆ รอว่าศิรินธารจะทำยังไง
ภายในล็อบบี้ แขกกลุ่มใหญ่เพิ่งเดินออกไป เหลือเพียงชาติที่สแตนด์บายอยู่ที่หน้าประตู ชาติรีบเข้ามาหาเหมียวทันที
“ป่านนี้บนห้องแถลงข่าวคงแซ่บคักๆ ถ้าคุณอารีย์ไม่ไล่ลงมาอยู่นี่นะ เหมียวจะไปประกบติดรายงานสดแบบวินาทีต่อวินาทีเลย!! แหง็กอยู่ข้างล่างนี่ดักดานชะมัด” เหมียวเอ่นขึ้นอย่างขัดใจ
“เหมียวนี่ก็โง๊โง่...เราขึ้นไม่ได้ก็ให้คนอื่นรายงานสิ” ชาติย้อนเพื่อน
“เออ...โหย...หน้าอย่างพี่ดูไม่น่าจะฉลาดได้เลยนะเนี่ย”
ชาติทำยืดแล้วนึกได้ “วอนแระ...”
ภายในห้องแถลงข่าว ศิรินธารอึ้งไป เห็นสายตาทุกคนมองมาด้วยความกดดัน
“คุณศิรินธารจะว่ายังไงคะ” ลักษณ์กระตุ้นถามขึ้นอีก
ลีลาสบตากับวัลภาให้กดดันเข้าไปอีก วัลภารีบพูด “ถ้าสำนึกผิดจริงๆ คุณศิรินธารคงไม่รีรอแบบนี้ แค่นี้ก็เป็นคำตอบแล้วว่า เราคงถามหาความจริงใจจากผู้บริหารของโรงแรมนี้ไม่ได้เลยใช่ไหมคะ”
ศิริเห็นทุกคนเริ่มกดดันก็เอ่ยตอบ “ผมสอนลูกๆ เสมอว่าศักดิ์ศรีไม่สำคัญเลย ถ้ามันทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อน เมื่อผิดพลาดทุกคนต้องพร้อมที่จะเอ่ยคำว่าขอโทษ...” ศิริมองไปทางศิรินธารด้วยสายตาลำบากใจ แต่มันเป็นหนทางเดียวที่ต้องทำ ศิรินธารมองดูก็รู้ดีว่า ศิริกำลังแนะในสิ่งที่ศิรินธารควรจะทำ ศิรินธารเครียดมากสับสนลังเล นรุตม์ ณรัล และหาญกล้ามองศิรินธารอย่างหวั่นใจ
วัลภาปรบมือประชด “ดิฉันซาบซึ้งมาก แต่คำพูดไม่สำคัญเท่าการกระทำ จริงไหมคะ?”
ทุกคนมองไปทางศิรินธาร กลุ่มวัลภามองอย่างกดดันเช่นกัน ศิรินธารมองสบตาลีลาที่มองมาด้วยสีหน้านิ่งมาก ท่ามกลางสายตาของคนในห้องทั้งหมด ศิรินธารกำมือแน่นอย่างตัดสินใจ จิ๊บถือโทรศัพท์คอยถ่ายเฟสไทม์ ราวกับถ่ายทอดสด
ขณะที่เหมียวกับชาติกกำลังมองเฟสไทม์ในมือถือของชาติอย่างสนใจ
“อุต๊ะ!...ให้คุณลูกหยีขอโทษ ไม่มีทาง” เหมียวออกความเห็น
“ก็ไม่แน่นะ นักข่าวอยู่เยอะอาจจะยอมก็ได้”
“ถ้าคุณลูกหยีขอโทษ เหมียวจะยอมเลี้ยงหมูกระทะพี่สิบมื้อเลย อย่างคุณลูกหยีขอโทษคนไม่เป็นหรอก ชนพนักงานตกบันไดคราวที่แล้ว ไอ้คนโดนชนก้นกบเคลื่อนยังต้องขอโทษคุณหยีเลย รู้จักรับผิดที่ไหนล่ะ นิสัยเหมือนแม่จะตาย” ชาติเห็นกัลยากับป้าเพ็ญเข้ามาทางด้านหลังเหมียวก็หน้าถอดสี “เป็นอะไรพี่ชาติ อยู่ๆ ก็หน้าซีด อย่าบอกนะว่าคุณท่านอยู่ข้างหลังเหมียวน่ะ”