บทละครโทรทัศน์ สามีตีตรา ตอนที่ 1 หน้า 3
ภูเบศร์ไม่ตอบ รีบสะบัดตัวออกห่างนิลุบลแล้วไปหยิบกระเป๋าเงินพร้อมกุญแจรถ มือถือภูเบศร์ดัง ภูเบศร์มองเบอร์ที่โทรเข้า แล้วเดินออกไปคุยนอกห้องไม่ให้นิลุบลแอบฟัง
“ฮัลโหล...อย่าโกรธนะครับที่รัก ผมบอกแล้วไงว่าเรื่องนั้นผมทำไปเพราะผลประโยชน์ ผมยอมทำทุกอย่างให้เรามีเงิน เพื่อสร้างครอบครัวของเรา ตอนนี้ผมกำลังไปง้อกั้ง เห็นนวลบอกว่ากั้งให้ผมลาออกจากบริษัทเก่า แล้วจะให้เงินผมตั้งบริษัทเอง”
ภายในรถที่สมหวังเป็นคนขับ มีกระจกกั้นระหว่างโซนคนขับกับโซนคนนั่ง
เห็นริมฝีปากของผู้หญิงคนหนึ่งพูดมือถือ
“จริงเหรอคะ งั้นถ้าคุณได้เงินแล้ว คุณก็เลิกกับเขาได้แล้วสิ ทีนี้พวกเราก็จะได้อยู่กันพร้อมหน้า พ่อ..แม่ ..ลูกกันสักที”
หน้าห้องโรงแรมม่านรูด ภูเบศร์ที่มองนาฬิกาอย่างรีบร้อน
“แล้วค่อยคุยกัน ผมต้องรีบไปก่อน เดี๋ยวกั้งจะเปลี่ยนใจ”
ภูเบศร์กดวางสาย นิลุบลเดินออกจากห้องมาพอดี ภูเบศร์รีบขึ้นรถแล้วยิ้มหมายมั่นกับเงินก้อนโตที่กะรัตรับปากจะให้เขาเป็นทุนเปิดบริษัท
ในห้องแต่งตัวในบ้านพักตากอากาศของกะรัต ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม ดีไซน์เนอร์รุมทึ้งแต่งหน้าทำผมให้กะรัตอย่างรีบร้อน
กะรัตหงุดหงิดเพราะกลัวไม่ทันเวลา “ทำให้มันเร็วๆหน่อยได้ไหม? !! เดี๋ยวทีมงานก็จะมาสัมภาษณ์กันแล้ว ป่านนี้ภูยังไม่มาอีกรึไง! เดี๋ยวฉันก็เปลี่ยนใจไม่ให้เงินซะหรอก!”
ดีไซน์เนอร์หยิบชุดมาโชว์ให้กะรัตเลือก
“ชุดนี้น่าเบื่อเป็นป้าแถวสำเพ็ง ..ชุดนั้นโป๊ไป ฉันแต่งงานแค่ปีกว่าคงไม่ต้องใส่ชุดยั่วผัวเป็นดาวยั่วขนาดนั้นหรอก ..ชุดสีขาวนั่นเก็บ ไปเลย ! ฉันจัดงานฉลอง ไม่ใช่จัดงานลาบวช! นี่ชุดราคาตั้งหลาย หมื่น ไม่มีอะไรใหม่ๆเลยรึไง!”
ดีไซน์เนอร์แอบรำคาญ “นี่ก็เป็นคอลเลคชั่นของแฟชั่นซีซั่นนี้แล้วนะฮะน้องกั้ง”
นวลเดินคุมละมุนแม่บ้านอีกคนให้รีบถือแก้วน้ำแล้วอาหารว่างเข้ามาบริการเพื่อบรรเทาบรรยากาศก่อนเกิดสงครามกลางห้อง
“น้ำเย็นๆ ขนมหวานๆมาแล้วค่า”
“นวล !! เธอจัดการบอกร้านอาหารรึยังว่าฉันเปลี่ยนโซนจัดงานเลี้ยงจากริมหาด เป็นในร้านรึยัง? ! ฉันจะใส่ชุดราตรี ไม่อยากให้ชุดเปื้อน”
นวลชะงักพูดอย่างอึกอัก “บอกแล้วค่ะ แต่ร้านไม่กล้ารับปากว่า จะเปลี่ยนได้ไหม”
“นี่ร้านยึกยักคิดจะเรียกเงินเพิ่มรึไง งั้นก็จ่ายไป จะได้จบๆ”
“ไม่ใช่ค่ะ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ร้าน แต่อยู่ที่คนอื่น”
กะรัตหันมามองนวลด้วยสายตาเอาเรื่องทันที ช่างผม ช่างแต่งหน้า ดีไซน์เนอร์มองไปทางกะรัตว่าจะอารมณ์ขึ้นไหมที่มีคนกล้ามีปัญหากับเธอ
“ใครกล้ามีปัญหากับกะรัต !!!”
ภายในห้องสัมมนาในร้านอาหารหรู พิศุทธิ์กำลังบรรยายใน หัวข้อ 9point Hedonic scales test การทดสอบ ความนิยมของผู้บริโภคต่อตัวผลิตภัณฑ์
“หัวข้อต่อไปที่ผมจะพูดถึงให้พวกคุณที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็น นักเรียนทุนวิจัยของมหาวิทยาลัยของเรา คือ การทดสอบความนิยมของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์โดยใช้วิธี nine points hedonic scales test เป็นวิธีวัดค่าความนิยมของผู้บริโภคได้แม่นยำ ซึ่งจะเป็นผลดีกับนัก food science ในการสร้างสรรค์พัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อตอบโจทย์ได้ตรงกับความต้องการของ ผู้บริโภคตามหลัก demand supply ... เหมือนกับวันวาเลนไทน์ ผู้หญิงต้องการกุหลาบ และทานข้าวที่โรแมนติก แต่เรากลับชวน ไปฟังเทศน์ สินค้าอย่างเราคงไม่ได้รับความนิยมแน่ๆ”
เสียงหัวเราะของเล่านักวิชาการดังขึ้น ให้กับพิศุทธิ์ที่มาดเป็นนักวิชาการแต่แฝงแววขี้เล่น พิศุทธิ์ยิ้มเท่ห์
เจ้าของร้านเปิดประตูห้องสัมมนาเข้ามาแล้วมองหน้าพิศุทธิ์เป็นเชิงบอกว่าเรื่องจะคุยกับพิศุทธิ์พิศุทธิ์มองเจ้าของร้านอย่างระอาเพราะรู้ว่าเจ้าของร้านคิดจะมาพูดเรื่องอะไร
มุมนึงของร้านอาหารริมทะเล
เจ้าของร้านอ้อนวอน “นะครับอาจารย์ ผมทราบว่าอาจารย์จองร้านเพื่อเลี้ยงคณะอาจารย์ นักศึกษา และพวกเด็กๆไว้นานแล้ว แต่ผมก็ลำบากใจจริงๆ ที่จะปฏิเสธคุณกะรัต”
พิศุทธิ์ชะงักเมื่อได้ยินชื่อกะรัต เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
“ยังไงผมก็ยืนยันว่าผมไม่เปลี่ยนไปริมหาด ผมขอเลี้ยงคนของผมภายในร้าน ผมมีเด็กเล็กๆที่ไม่ปกติ ไม่สะดวกที่จะจัดงานริมหาด”
“แต่ว่า…”