บทละครโทรทัศน์ รักออกฤทธิ์ ตอนที่ 13 หน้า 2
“เอางี้ถ้าเธอทำสำเร็จ ฉันมีค่าจ้างให้” วรางค์หยิบกล่องกระดาษเล็กๆออกมา เปิดฝากล่องให้โจดู
โจอึ้งไป “นี่มัน...”
วรางค์ปิดฝากล่อง “เธอคงเข้าใจความหมายของมันดี ฉันไม่ได้เชียร์เธอ แต่ฉันให้โอกาสเธอ”
“ผมยอมรับว่าคุณยายดูไม่ผิด แต่คุณยายเก็บมันไว้เถอะครับ ผมมีฉายาโจตัวซวย ใครเป็นนายจ้างผมน่ะ ซวยตลอด”
“ฉันไม่เชื่อแล้วก็ไม่กลัว ฉันให้เธอทำงานฉันก็ต้องมีค่าจ้างให้ ... ตกลงเธอจะรับงานนี้ไหม”
โจเงียบไป
“ช่วยวนิด้วยเถอะนะ นายดาว”
โจยังเงียบ เขาคิดไปถึงใบหน้าเศร้าสร้อยของวนิษายามที่กล่าวว่าเธอจะบวช
“ขอผมคิดดูก่อนนะครับ”
วรางค์ดูผิดหวัง
โจนั่งอยู่คนเดียว ตรงหน้าเขาเป็นตำราดูดวง ตำราโหรต่างๆ ป๋องนั่งดูอยู่เงียบๆ เห็นโจไม่พูดอะไรซักที ป๋องทนไม่ได้ “พี่กำลังคิดอะไรอยู่เหรอ”
“ถ้าวนิษาเป็นกาลกิณี …เป็นผู้หญิงกินผัว… ก็ถือว่าเธอเป็นฆาตกรทางอ้อม การบวชก็ถือเป็นการชดใช้ให้เหยื่อ ถือว่าทำถูกต้องแล้ว แต่ถ้าวนิษาไม่มีดวงกินผัว การตายของผัวสามคนก็ไม่เกี่ยวกับวนิษา ดังนั้นบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลก็ถือว่าไม่ถูกต้อง”
“แต่เราพิสูจน์เรื่องดวงไม่ได้นี่ครับ”
“ไม่แน่ เช่นถ้าฉันหาหลักฐานได้ว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของการฆาตกรรม เป็นฝีมือของคน เรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องดวงอีกต่อไป”
“แต่จนป่านนี้เราก็พิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นเรื่องฆาตกรรม”
“ตอนนี้ฉันถึงลังเลว่าดวงกินผัวมีจริง ...แต่ว่า...ถ้าดวงกินผัวมีจริง โจตัวซวยก็มีจริง...แต่ฉันรับเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะคนที่มีพระคุณที่สุดในชีวิตของฉัน คนที่เป็นครูที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของฉัน บอกฉันว่าโลกนี้ไม่มีโจตัวซวย”
“หมายถึงหลวงพ่อเหรอครับ”
“ใช่ ท่านย้ำสอนฉันมาตั้งแต่เด็กๆ ... จนฉันรู้สึกว่าถ้าฉันเชื่อเรื่องนี้ฉันจะเป็นคนเนรคุณต่ำช้าสามานย์ไปทันที”
“แล้วพี่จะเอายังไงครับ”
“เฮ้อ สับสนมากเลยว่ะ” โจหยิบหนังสือบนโต๊ะมาเล่มหนึ่ง“ตรวจกรรมระดับนาโน โดย เม้ง จิตทิพย์...” โจอ่านชื่อหนังสือแล้วหันมาหาป๋อง “หมอนี่อาจจะแก้ปัญหาให้เราได้”