บทละครโทรทัศน์ รักออกฤทธิ์ ตอนที่ 13 หน้า 4
“ขอถามอีกข้อ ดวงกินผัวมีจริงเหรอ”
“ใช่ครับ ตำราว่าไว้...ขอโทษนะ” เม้งพบว่าตัวเองกลัวจนเสียงแห้ง เดินกดน้ำอุ่นจากกระติกน้ำร้อนบนโต๊ะ จิบกิน กระแอมเล็กน้อย แล้วเดินไปที่ชั้นหนังสือ ใช้เวลาไล่หาหนังสือเพียงแป๊บเดียวก็หยิบหนังสือเล่มหนึ่ง เปิดออก ส่งให้โจ เขาจึงรับมาดู
ภาพในหนังสือประกอบคำบรรยายของเม้ง - เป็นภาพที่ถ่ายจากคัมภีร์ใบลาน เป็นลายเส้นยึกยือ รูปผู้หญิง มีตัว อักขระคล้ายๆภาษาขอม ดูขลัง
เม้งอธิบาย “ดวงนารีบริโภคภัสดา ท่านว่าลักขณาวิกฤติผิดพื้นเพ ดาวจระเข้กลับหัวหางชี้ พุธ ศุกร์ เสาร์ขี่ซ้อน ล้านสมรหาได้หนึ่งนางเดียว ดวงขบเขี้ยวเคี้ยวผัวตายทุกคน ... ความหมายของมันคือเจ้าของดวงๆนี้หาเจ้าเรือนได้ยาก มีน้อยกว่าน้อย ต้องเกิดตอนดวงดาวทำมุมในลักษณะพิสดาร แต่พลังดวงนั้นรุนแรง ผู้หญิงเจ้าของดวงนี้ อยู่กินกับคู่คนไหน คู่ต้องถึงตาย”
โจวางหนังสือลง “มีทางแก้เคล็ดมั้ย”
“ดวงนี้เป็นหนึ่งในดวงอาถรรพ์โทษทั้งเจ็ด... คือหมายถึงเป็น 7 พื้นดวงที่ไม่มีทางแก้เคล็ด ไม่มีทางผ่อนหนักเป็นเบา...ถ้าเจ้าของดวงไม่อยากให้มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นก็มีทางเดียว คือห้ามมีผัว”
โจเงียบไป “ผมขอโทษนะครับที่รบกวน ผมบอกคุณไม่ได้ว่าผมเป็นใครแต่ผมทำไปเพราะอยากรู้ความจริงแค่นั้นเอง”
ป๋องเองก็บอก “ผมก็ขอโทษด้วยครับ”
“ขอบคุณคุณมาก”
“ไม่แกะหน้ากากออกมาให้ดูหน้าหน่อยเหรอ อยากเห็น”
“ถ้าถอดให้คุณดูแล้วผมจะใส่มาทำแมวอะไรวะ ไม่ฆ่าปิดปากก็บุญแล้ว อย่าเรื่องมากนะ”
เม้งจ๋อย โจกับป๋องเดินออกมา
ป๋องกับโจถอดหัวไอ้โม่งแล้ว เดินคุยกัน “ดูท่าทางแล้วปล่อยให้คุณวนิษาบวชดีกว่ามั้งพี่ ฟังกลอนแล้วขนลุกไม่หายเลย ตรงตามตำราเป๊ะ”
“กลอนนั่นท่าทางจะของเก่า ไอ้หมอเม้งคงไม่ได้แต่งเองแน่ๆ”
“คนสมัยก่อนเค้าไม่แต่งกลอนกันเล่นๆหรอกพี่ ผมว่ามันมีจริงนะ เราปล่อยคุณวนิษาบวชไปดีกว่า”
“อืม...ถ้าเราขัดขวางก็เหมือนเราปล่อยฆาตกรโรคจิตออกมาเพ่นพ่าน ไม่รู้ใครจะเป็นเหยื่อรายต่อไปของเธอ”
“ใช่ครับ”
โจนิ่งคิดแล้วภาพใบหน้าเศร้าสร้อยตอนที่วนิษาบอกว่าจะไปบวช “ไม่ว่ะ”
“อะไรนะครับ”
“ฉันเชื่อคุณยายว่ะ ฉันว่าเขาไม่อยากบวช เขาอยากให้ใครสักคนช่วยเขา”