บทละครโทรทัศน์ เกมเสน่หา ตอนที่ 9 หน้า 3
ตรงหน้า ก่อนจะเงยหน้าสบตาพิมลแขอย่างไม่เข้าใจ “ขอโทษนะคะคุณวัช แข ...แต่งงานกับคุณไม่ได้แล้ว”
ทอแสงยกมือขึ้นปิดปาก นักข่าวฮือฮา ลัคนัยอึ้ง!! เหมือนชนกเองก็มองตามไปอย่างไม่เชื่อหู
ธวัชช็อก “เพราะอะไร..แข”
พิมลแขหลบตา ตัดสินใจเดินฝ่านักข่าวออกไปทันที โดยไม่ตอบคำถามของธวัชที่นั่งนิ่งทำอะไรไม่ถูก พิมลแขตรงไปที่ทางออกซึ่งลัคนัยยืนอยู่ และพูดกับลัคนัย พิมลแขแววตาจริงจัง “แขทำตามข้อตกลงของเรา ...”
พิมลแขพูดไม่ทันขาดคำก็ต้องชะงักไป เพราะเพิ่งเห็นเหมือนชนกที่ยืนเยื้องไปด้านหลังของลัคนัย
“คุณขอร้องไม่ให้แขตอบตกลงแต่งงานกับคุณธวัช ...เพื่อเธอ งั้นเหรอ”
เหมือนชนกอึ้งจัดกับสิ่งที่ได้ยิน ลัคนัยหลุบตา พิมลแขเห็นอย่างนั้นก็รู้คำตอบ ยิ้มเศร้าและเดินผ่านหน้าลัคนัยออกไปจากร้าน เหมือนชนกจ้องลัคนัยคล้ายจะถามว่าเป็นความจริงหรือไม่ แต่ลัคนัยตัดบท
“พาคุณพ่อคุณออกไปกันก่อนเถอะ” เหมือนชนกได้สติ รีบตามลัคนัยไปหาธวัชที่ยังคงนั่งคุกเข่าอยู่ที่เดิม
สีหน้าของธวัชนิ่งไม่ไหวติง มีแสงแฟลชสว่างวาบเป็นจังหวะย้ำๆ เหมือนซ้ำเติม เหมือนชนกประคองธวัชให้ลุกขึ้น พาเดินออกไป โดยมีลัคนัยคอยกันนักข่าวให้
ห้องรับแขก บ้านธวัช ลัคนัยนั่งบนโซฟาตัวตรงข้ามวิสาขา ลัคนัยเพิ่งเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้วิสาขาฟังจนจบ
“จะสงสารหรือสมน้ำหน้าน้าชายเธอดีนะ เล่นใหญ่ไม่รู้จักเช็กอีกฝ่ายก่อน”
ลัคนัยปราม “อย่าพูดแบบนั้นให้น้าวัชได้ยินเด็ดขาดเลยนะครับ”
“ได้ยินสิดี จะได้รู้ตัวว่าไอ้วิธีขอแต่งงานแบบที่ทำมันเฉิ่มมากกกก ...ยี่สิบกว่าปีที่แล้วเฉิ่มยังไง ทุกวันนี้ก็ยังเฉิ่มเหมือนเดิม”
ลัคนัยเหน็บ “ก็ไอ้แบบ เฉิ่มมากกก นี่ไม่ใช่เหรอครับที่เคยใช้ได้ผลมาแล้ว”
วิสาขาไม่ยอมรับ “ฉันยอมแต่งเพราะขี้เกียจฟังแม่บ่นเช้าบ่นเย็นหรอกน่า” วิสาขาเปลี่ยนเรื่อง “แต่แปลกใจอย่างนึง ทำไมยายนางงามถึงปฏิเสธนะ ก่อนหน้านี้เห็นอยากแต่งใจจะขาด”
ลัคนัยไม่ได้ให้ความเห็นใดๆ เหมือนชนกเดินลงมาจากชั้นสอง พร้อมไพพรรณ
“เป็นไงบ้างล่ะพ่อเรา”
“นกให้ทานยานอนหลับ ตอนนี้หลับไปแล้วค่ะ ...แม่คะ เดี๋ยวพวกนกต้องเข้าบริษัท ถ้าไงอีกสองสามชั่วโมงช่วยขึ้นไปดูคุณพ่อให้ทีนะคะ ถ้ามีอะไรก็ไลน์บอกนกหน่อย”
“แล้วทำไมต้องเป็นแม่ล่ะ” เหมือนชนกเหลือบมองไพพรรณ ส่งสายตา ให้ไพพรรณเป็นคนตอบ
“บ่ายนี้ไพต้องไปจ่ายตลาดน่ะค่ะ ของสดหมดแล้ว วันนี้คุณมาลินีก็มาขอแรง แอ๊บกับแอ้ให้ไปช่วยงาน .... ไม่มีใครอยู่เลย”
“เฮ้อ เป็นภาระฉันจริงๆ เลย แทนที่จะได้ออกไปร่อน”