บทละครโทรทัศน์ บ่วงบรรจถรณ์ ตอน 23 หน้า 2
“เรียบร้อยแล้วครับ เพราะผมต้องกลับเชียงรายเย็นนี้”
แววตาของแพรนวลสลดลง เมื่อต้องจากลากันโดยที่พ่อไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร “รีบกลับไปหาคุณกิ่งแก้วเหรอคะ?”
“ครับ”
“ถ้าภรรยาขอหย่า เพราะเข้าใจผิดคิดว่าสามีนอกใจคุณต่วนจะทำยังไง ?”
ต่วนงง “ผมยังไม่ได้แต่งงาน”
“ฉันกำลังเขียนนิยายรัก อยากรู้ว่าผู้ชายกับผู้หญิงคิดต่างกันแค่ไหน”
“ผมจะไม่ยอมหย่าและจะรอคนที่ผมรักกลับมา”
แพรนวลดีใจ รำพึงคนเดียว “พ่อไม่เคยแต่งงานใหม่เพราะรอแม่มาตลอด”
นายต่วนไม่ได้ยินคำพูดแพรนวล เพราะหันไปฟังเสียงกลองมังคลาเร่งจังหวะถี่ขึ้น
“ขบวนแห่คงจะเริ่มแล้ว” ต่วนหันมาบอกแพรนวล “รีบไปเข้าขบวนเถอะครับ”
“คุณต่วนเคยบอกว่าถ้ามีลูกสาวจะตั้งชื่อว่า แพรนวล”
“ผมค้าขายผ้าเป็นส่วนใหญ่ “แพรนวล” เป็นชื่อผ้าเหมือน “ต่วน” ผมอยากให้ลูกสาวสดใสน่ารักแบบคุณแพรนวลและอยากให้ชื่อของพ่อลูกมีความหมายเหมือนกัน” แพรนวลยิ้มมองนายต่วนอย่างเต็มตา ความอัศจรรย์ที่ทำให้ได้เจอพ่อจากการซ้อนสานของกาลเวลา ช่วยเติมเต็มหัวใจที่อ้างว้างของแพรนวลให้อบอุ่นได้เหลือคณา
ทางเดินไปหน้าหอคำ หลาวเปิงเดินตามเจ้านางตองริ้วกับซานแปงไปร่วมขบวนหน้าหอคำ สักพักเจ้านางตองริ้วหันมาหาหลาวเปิง เพิ่งนึกขึ้นได้ “พี่เรืองระยับยังไม่รู้ว่าตองริ้วจะไปอังกฤษวันนี้”
“บอกตอนไหนก็มีค่าเท่ากัน”
“พี่หลาวเปิงโกรธพี่เรืองระยับเพราะเรื่องคุณแพรนวลรึเปล่าคะ ?”
ซานแปงงง “เรื่องอะไร ?” เจ้านางตองริ้วหน้าเสีย เผลอหลุดปากพูดออกไปทั้งที่แพรนวลไม่อยากให้หลาวเปิงรู้
“ห้ามปดพี่นะตองริ้ว” หลาวเปิงจ้องเจ้านางตองริ้ว คาดคั้นเสียงเข้ม
หน้าประตูกำแพงหอคำ บรรยากาศของการตั้งขบวนแห่เป็นแถวยาวเหยียด ผู้มาร่วมเดินในขบวนแห่ทุกคนต่างใส่ชุดสีเดียวกัน กลุ่มชาวลัวะอยู่ในชุดชาวเขาสีแดงแบกปล้องไม้ไผ่ต้นใหญ่ ซึ่งใช้แขวนกลองมังคลาทั้งด้านโคนและด้านปลาย ผู้ตีกลองเร่งจังหวะเร็วขึ้น บัวเขมกับอัปสรอยู่กับขบวนหาบจอกน้ำอ้อยเป็นแถวคู่ร่วมกับหญิงสาวเวียงขินนับร้อยคน โดยหาบคานไม้ไผ่เล็ก ๆ ทั้งสองด้านของคานหาบจะแขวนกระจาดสานใบเล็ก มีจอกดินเผาใส่น้ำอ้อยวางไว้ในกระจาด ต่อมาเป็นแถวชายหญิงถือตุงต่างสีสันลวดลาย ตุงเหล่านั้นติดอยู่ปลายไม้ไผ่ เป็นแผ่นธงสี่เหลี่ยมที่ปล่อยชายด้านล่าง มิสเตอร์ลิฟซีย์คอยถ่ายภาพขบวนแห่มุมต่าง ๆ ด้วยความสนใจ