บทละครโทรทัศน์ บ่วงบรรจถรณ์ ตอน 1 หน้า 4
เห็นทิวทัศน์สวยงามของบ้าน...มองเห็นหมู่ต้นลั่นทมที่ปลูกเรียงรายรอบเรือนใหญ่หลายสิบต้น แพรนวลขับรถตรงเข้าไปยังหมู่ต้นลั่นทมที่ปลูกเรียงรายอยู่นั้น ฉับพลันบังเกิดลมพัดปะทะเข้ากับใบหน้า ผมสวยของแพรนวลปลิวไสวไปกับสายลมนั้น...แพรนวลชะงักรู้สึกได้ถึงความผูกพันบางอย่างที่ผ่านเข้ามาพร้อมกับกระแสลม
เสียงใครคนหนึ่งดังแผ่วแว่วมากับสายลม “แม่หญิงแพรนวล.. แม่หญิงแพรนวล”
แพรนวลชะงักทันที รีบจอดรถมองออกไปข้างนอกจนทั่ว แต่ก็ไม่เห็นใคร ด้วยความสงสัย...แพรนวลจึงถอดแว่นสีดำวางไว้บนคอนโซลหน้ารถ แล้วเปิดประตูก้าวลงรถไป
แพรนวลหันมองไปรอบ ๆ จนแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แถวนั้น จึงเดินเข้าไปใต้ลั่นทมต้นใหญ่ซึ่งอวดดอกขาวแกมเหลืองบานสะพรั่ง จนได้กลิ่นอ่อนโยนโลมไล้บรรยากาศรอบบริเวณ ลมเย็นพัดผ่าน ทำให้ดอกลั่นทมบนต้นร่วงหล่น แพรนวลมองดอกลั่นทมสีขาวที่ร่วงลงมา แพรนวลแบมือออกรับดอกลั่นทมได้ดอกหนึ่งพอดิบพอดี เธอก้มหน้าลงมองดอกลั่นทมนั้น... ลมแรงปะทะใบหน้า พร้อมเสียงๆ หนึ่งดังเข้ามาอีกแล้ว
“แม่หญิงแพรนวล...”
แพรนวลสีหน้าสดชื่น รู้สึกสบายใจขึ้นอย่างประหลาด ใบหน้าคล้ายกำลังเคลิ้บเคลิ้มอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน
“คุณแพรนวล .. คุณแพรนวล ?”
สำเนียงคนเหนือทำให้แพรนวลชะงักออกจากภวังค์ทันที แพรนวลหันไปเห็นป้าคำแดงเดินเข้ามามองใกล้ ๆ เหมือนไม่แน่ใจว่าใช่รึเปล่า ก่อนสีหน้าจะแปรเปลี่ยนเป็นดีใจ “คุณแพรนวลจริง ๆ ด้วย มาได้ยังไงคะ ?”
แพรนวลยืนอยู่ที่ระเบียงเรือนใหญ่ชั้นบน เห็นความอลังการของบ้านหลังใหญ่เก่าแก่หลายสิบปี ที่ยังคงสวยงามตามแบบบ้านเศรษฐีทางเมืองเหนือ แพรนวลมองตัวบ้านโดยรอบ ราวกับต้องการรื้อฟื้นความทรงจำในวัยเด็กที่เคยลืมไปนานแสนนาน
“ยี่สิบปีแล้วที่แพรจากบ้านนี้ไปหลังจากแม่พ่อหย่ากัน แพรไม่ได้รับการติดต่อจากพ่อเลย”
“ไม่มีใครมาพักบ้านหลังนี้อีกเลย หลังจากพ่อเลี้ยงต่วนตาย”
“สภาพบ้านยังดูดีเหมือนเดิม แทบไม่เปลี่ยนไปเลย”
“พ่อเลี้ยงต่วนรักคุณแพรมาก ถึงได้ยกมรดกทั้งหมดรวมทั้งบ้านหลังนี้ให้คุณแพร”
แพรนวลรู้สึกตื้นตันใจจนพูดไม่ออก เสมองออกไปทางด้านหลังของเรือนใหญ่ที่เต็มไปด้วยสีเขียวชอุ่มของท้องทุ่งตัดกับท้องฟ้าใสสะอาด ห้อมล้อมด้วยภูเขาสูงทอดนอนเป็นช่วงชั้นต่อเนื่อง
“เด็กกำลังทำความสะอาดห้องพ่อเลี้ยงต่วนให้คุณแพร อีกสักพักคงเสร็จ”
แพรนวลหันไปเห็นแหลมทองมองรถเธอด้วยท่าทางตื่นเต้น พยายามหากระเป๋าเดินทาง
“คุณแพรไม่เอาเสื้อผ้ามาเลยเหรอครับ ?”