บทละครโทรทัศน์ บัลลังก์เมฆ ตอนที่ 22 หน้า 3
“เหรอ ..เห็นคุณมาด้อมๆมองๆอะไรที่รถฉัน นึกว่าคุณมีอะไร งั้นฉันไปดูงานข้างนอกก่อนนะ” นิชาเดินไปจะขึ้นรถ
ปรกมองตามนิชา ใจหนึ่งปรกอยากถามนิชา อีกใจก็ไม่กล้า เพราะกลัวคำตอบ
ด้านนิชาเอื้อมมือไปจับประตูรถ แต่ยังไม่เปิด เพราะใจหหนึ่งก็ลังเลอยากบอกปรกว่าเรื่องถูกบังคับดูตัว ไม่ใช่เรื่องของเพื่อน แต่เป็นเรื่องของตัวเอง
ปรกและนิชาหันมาพูดพร้อมกัน “เอ่อ ...” ปรกกับนิชามองหน้ากัน
“คุณพูดก่อนสิ” ปรกเอ่ยบอกอีกฝ่าย
“คุณพูดก่อนก็ได้” นิชาเกี่ยง
“เอ่อ ..คืนนี้คุณไปไหนรึเปล่า”
นิชาชะงักนิดนึงเมื่อนึกถึงงานคืนนี้ เพราะเป็นสิ่งที่เธอไม่อยากคิดถึง “ไป...ฉันต้องไปทานข้าวกับคุณแม่ คุณปรก... เมื่อวานที่คุณแนะนำเรื่องเพื่อนฉันให้เค้าทำตามแม่ คุณคิดว่าเค้าควรจะทำอย่างนั้นจริงๆใช่มั้ย?” นิชามองปรกเหมือนรอคำแนะนำที่จะเป็นความหวังสุดท้าย
ปรกมองนิชา ชักไม่แน่ใจว่านิชาหมายถึงตัวนิชาเองรึเปล่าเลยไม่กล้าตอบ
ทันใดนั้นธนากรวิ่งเข้ามาหานิชา “นิชา ! ดีใจจังที่คุณยังไม่ไป อยู่ๆ หัวหน้าก็สั่งให้ผมไปช่วยดูงานกับคุณ” ธนากรมองนิชาที่ดูเหมือนกำลังคุยกับปรก “...มีอะไรกันรึเปล่า ?”
นิชามองปรก อย่างรอว่าปรกมีอะไรจะพูดกับตนมั้ย แล้วหันไปบอกธนากร “เอ่อ ..ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ไปกันเถอะ” นิชาขึ้นรถ ธนากรเดินตามไปนั่งข้างๆ นิชาขับรถออกไป
ปรกมองตามนิชาอย่างครุ่นคิด แล้วพึมพำปลอบใจตัวเอง “เขาไปกินข้าวกับแม่ ไม่ได้ไปงานโชว์เพชร ..โลกมันไม่ได้กลมขนาดนั้นหรอกน่าไอ้ปรก!” ปรกจะเดินไป แล้วทันใดนั้น ! ชายหนุ่มชะงัก เห็นวิภาวีแอบยืนมองไปทางรถนิชา ปรกจำวิภาวีได้ “นั่นแฟนพี่ปานเทพนี่หว่า”
วิภาวีหันมายิ้มทักทายให้ปรก แล้วเดินออกไป ปรกรีบเดินตามวิภาวีไป
ปรกเดินตามวิภาวีมาจนทัน “คุณครับ”
วิภาวีหยุดเดินแล้วหันมามองปรก “สวัสดีค่ะ”
“คุณเป็น ...” ปรกลังเลไม่รู้ว่าจะเรียกอีกฝ่ายในฐานะอะไร “เอ่อ เพื่อนของพี่ปานเทพใช่ไหมครับ? ..ผมเจอคุณที่หน้าบ้าน”
วิภาวีพูดยิ้มๆ “ถ้าคุณเห็นผู้หญิงที่จูบกับผู้ชายเป็นแค่เพื่อน ฉันก็เป็นเพื่อนของพี่ชายคุณค่ะ”
“ขอโทษครับ ถ้าคุณมีความสัมพันธ์กับพี่ชายผมมากกว่านั้น แต่ผมไม่ค่อยยุ่งเรื่องส่วนตัวของพี่ปานเทพ”
“ไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัว หรือไม่ยุ่งกับคนระดับต่ำกว่ากันแน่คะ”
“เอ่อ ...”
“ฉันไม่ว่าคุณหรอกค่ะ ลูกเป็นยังไง อยู่ที่การอบรมเลี้ยงดู..แต่ก็ขอบคุณนะคะที่จำฉันได้และมาทักทาย ฉันไปล่ะค่ะ”
“เดี๋ยวครับ !” วิภาวีหันมามองปรก “คุณมาทำอะไรเหรอครับ เผื่อผมช่วยคุณได้”