บทละครโทรทัศน์ พลับพลึงสีชมพู ตอนที่ 14 หน้า 4
“แล้วถ้าแม่ดี พ่อไม่ดี หรือ แม่ไม่ดี แต่พ่อดี .. ลูกจะเป็นยังไงล่ะกระหม่อม”
“ก็อยู่ที่ใครจะใกล้ชิดลูกมากกว่ากัน ลูกจะซึมซับแบบอย่างจากคนนั้น”
“ฝ่าบาท..ทรงใกล้ชิดพระธิดาไหมกระหม่อม ?”
พระองค์หญิงวิสุทธิโสภีทรงอึ้งไป “นี่ถ้าไม่ใช่คุณ มาถามเราแบบนี้ คงจะเคืองกันนะ”
“ขอประทานอภัย กระหม่อมเป็นคนห่างไกลครอบครัว จึงเพียงแต่อยากทราบว่าคนที่เป็นพ่อแม่ จะต้องรักลูกประมาณไหน ถ้าลูกทำผิด พ่อแม่จะให้อภัยทุกกรณีไหม .. กระหม่อมไม่ได้มีเจตนาจะทำให้ทรงระคายเคือง .. หากจะทรงกริ้ว กระหม่อมก็คง” วิศรุตแกล้งเสียใจ
“ไม่โกรธหรอก ตอบให้ก็ได้นะ ว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่น่ะ รักลูกแบบไม่มีเงื่อนไข และไม่มีวันโกรธลูกได้นาน ไม่ว่าลูกจะทำผิดร้ายแรงแค่ไหน”
“อย่างนั้นเชียวหรือกระหม่อม”
“ไว้คุณมีครอบครัว มีลูก คุณจะเข้าใจ” พระองค์หญิงวิสุทธิโสภีทรงรับสั่งเบาๆ
ม.ร.ว.หญิงประสงค์สมเดินมา อัศดงและราตรีถือถาดขนมตาม “ขนมปุยฝ้ายเบญจรงค์เพคะ เสวยกับชายอดน้ำค้างนะเพคะ”
ม.ร.ว.หญิงประสงค์สมหันไปพยักหน้าให้สองสาวยกของว่างและถาดเครื่องชามาวางเริ่มชงชา วิศรุตมองม.ร.ว.หญิงประสงค์สมเตรียมชงชาควันฉุย พระองค์หญิงวิสุทธิโสภีมองจับสังเกตทั้งสองคน
พระองค์หญิงวิสุทธิโสภีทรงพระดำเนินช้าๆ ประทานหัตถ์เกาะแขนวิศรุต ทิวา ราตรียืนมองห่วงใยอยู่ห่างๆ ยิ้มกัน
“เรื่องที่ดินที่คุณได้รับมอบหมายมาเป็นนายหน้าขอซื้อน่ะ เรายังไม่แน่ใจหรอกนะ ว่าจะขายหรือไม่ และถ้าขาย จะตีราคากันยังไง คุณมีข้อแนะนำมั้ย ?”
วิศรุตอมยิ้ม ขำ “ฝ่าบาทรับสั่งราวกับกระหม่อมเป็นที่ปรึกษาของวัง”
“สมมติไง สมมติว่าคุณเป็น.. เป็นลูกหลานเรา คุณว่าจะทำยังไง”
วิศรุตสะอึกนิดเดียว ไม่ยอมให้มีพิรุธ “ก็ควรมีรับสั่งให้ทนายของวัง ตรวจสอบราคาประเมินที่ดินสิกระหม่อม ว่าจะทรงขายเท่าไรจึงจะเหมาะสม ฝ่ายผู้ซื้อเองก็คงมีราคาอยู่ในใจแล้ว เมื่อได้ข้อมูลราคาแล้ว ก็สุดแท้แต่ฝ่าบาทจะทรงพิจารณา”
“แนะนำได้ดีมาก ว่าแต่.. คุณคิดว่าอย่างไรล่ะ เราควรขายไหม ?”
“กระหม่อมอยู่ฟากผู้ซื้อ ..ก็ต้องอยากให้ทรงขายเป็นธรรมดากระหม่อม”
“จริงสินะ งั้น ก็มาบ่อยๆ สิ รอจนกว่าเราจะอยากขายแล้วกันนะ” พระองค์หญิงวิสุทธิโสภีเดินออกมาห่าง อมยิ้มน้อยๆ วิศรุตยืนงง ที่พระองค์หญิงวิสุทธิโสภีรับสั่งเหมือนแกล้ง
สวนบ้านวิศรุต ริชาร์ดกับจอห์นนี่ทำสวน พรวนดิน ชี้ให้อธิปลากเข่งใบไม้แห้งมา อธิปหยิบโหย่ง ลากๆ หยุดๆ ธาราสั่ง “ลากมายาวๆเลย อธิป อย่าอิดออด อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย”