บทละครโทรทัศน์ พลับพลึงสีชมพู ตอนที่ 1 หน้า 8

“กลัวอะไร ข้ามชายแดนคราวนี้ กูไม่กลับมาแล้ว อยู่ก็มีแต่หนี้ อดอยากจะตายห่า”
สโรชาฉวยจังหวะสองโจรเถียงกัน กัดมือเพื่อนโชเฟอร์สุดแรง สลัดตัวออก วิ่งไม่คิดชีวิต ท่ามกลางฝนที่ตกไม่ลืมหูลืมตา
“เฮ้ย อีนี่กัดกู กูจะฆ่ามึง” เพื่อนโชเฟอร์ตั้งสติได้ สลัดมือเร่าๆ วิ่งตามพร้อมปืนในมือ
โชเฟอร์รั้งไว้ “อย่ายิงนะเว้ย เดี๋ยวคนแห่มา”
สองโจรวิ่งตามสโรชาที่วิ่งลัดเลาะหัวซุกหัวซุน เบียดพุ่มไม้ไปข้างหน้า ฝนตกหนักขึ้น
สโรชาเสื้อหลุดลุ่ย วิ่งกระเซอะกระเซิงมากลางฝนกระหน่ำ สองโจรวิ่งตามสโรชาอยู่ไม่ไกล เลี้ยวลับพุ่มไม้ สองโจรหยุดยืนมองหน้ากันแล้วแยกกันเป็นสองทาง อ้อมจะไปดักให้ได้
กลางฝนกระหน่ำ สโรชาวิ่งอย่างตื่นตระหนก มาจนสุดทาง ไม่รู้จะไปต่อยังไง เห็นพุ่มไม้เตี้ยๆ ตัดสินใจไถลย่อตัวลง แล้วนอนกลิ้งตัวพุ่งเข้าไปซุกหลบ เพื่อนโชเฟอร์วิ่งตามมา หยุดมองไม่ห่างจากกอพลับพลึงใหญ่ ก้มมองผิดตำแหน่ง ใบไม้บัง จึงไม่เห็นสโรชา โชเฟอร์อยู่ห่างออกไป วิ่งมาสมทบกัน ยืนอยู่ใกล้สโรชาแค่ปลายจมูก มองรอบตัวไม่เห็นอะไร
เพื่อนโชเฟอร์บ่น “ไปไหนวะ ไวจริง ยุ่งชิบหาย กะจะเอาแค่กระเป๋าสตางค์ ..มึงน่ะ เห็นของขาวๆเป็นไม่ได้ แต่ถ้ามันรอดไป มันจะไปแจ้งความรึเปล่าวะ”
“ไอ้ปอดแหก ก็บอกแล้วไง กูไม่กลับมาให้ตำรวจจับหรอก หรือมึงจะกลับมา”
“ไปกบดานซักหกเดือนก็ได้วะ ไปเหอะ รีบเอารถไปขาย อีเวรนี่ช่างแม่มเหอะ”
สองโจรพากันเดินฝ่าฝนจากไปอย่างเร็ว
สโรชาตัวสั่นหอบในกอพลับพลึง ตื่นเต้นจนเหนื่อยเป็นลมสลบไป ฟ้าร้องฟ้าแลบแปลบปลาบ
เช้าวันใหม่ หน้าโฮมสเตย์ วิศรุตในชุดออกกำลังกาย ออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์หลังฝน บิดขี้เกียจยืดเส้นสายแล้วก็ลงนั่งผูกเชือกรองเท้า ที่นิ้วมีแหวนโบราณสวมอยู่
วิศรุต จ็อกกิ้งมาเรื่อยๆ หยุดบิดตัวยืดเส้น ชะลอฝีเท้าเพราะพื้นแฉะ มองทางเดินใกล้พุ่มไม้มีรอยย่ำ กวาดตามองดูกิ่งไม้ใกล้ๆ ถูกกระชากโย้เย้ เดินต่ออีกนิด เห็นว่าข้างกอพลับพลึงมีรอยย่ำ “ไอ้หมาพวกนี้มันยังไงนะ” ที่กอพลับพลึงใหญ่ มีดอกสีชมพูอยู่บ้าง กลีบดอกเปียกน้ำพราวเป็นหยาดใส วิศรุตแหวกดู ผงะนิดหนึ่งเมื่อเห็นร่างหญิงสาวนอนคุดคู้หลับสนิท “เฮ่ย.. คนนี่นา.. มาซุกอะไรอยู่ตรงนี้.. ฮึ้ย..ผู้หญิง !!”
วิศรุตจับตัวสโรชาเขย่า สโรชาสะดุ้งเฮือกสุดตัว ร้องกรี๊ดลั่น !!! “อ๊ายยยยย!!! ปล่อยนะ!! อย่ามาจับตัวชั้น!!!”