บทละครโทรทัศน์ ปดิวรัดา ตอนที่ 22 หน้า 4
นริศเพิ่งมาจากข้างนอก เดินหน้าเครียดเข้ามา “ไม่เจอครับ ที่บริษัทก็ไม่เข้า ที่โรงแรมก็ไม่อยู่”
“แล้วเสื้อผ้ามันอยู่ไหม”
“เอ ผมไม่ทราบสิครับ ขึ้นไปขอดูจะเสียมารยาทนะครับ เลยไม่ได้ขอ”
มหินท์ลุกขึ้นด่านริศ หมั่นไส้นริศขึ้นทุกที ทำให้ผิดหวังทุกวัน “โฮ้ย ยังมามัวสนใจเรื่องมารยาทอะไรอีก ใช่สิ มันเงินครอบครัวผม ไม่ใช่เงินคุณชาย ถึงทำเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่ได้ ไปๆ กลับไปโรงแรม ไปเฝ้ามันจนกว่ามันจะกลับ ผมจะไปด้วย” มหินท์ออกไปกับนริศ
“ทางนี้ฉันจะคอยโทรตามให้ ได้เรื่องอะไร ส่งข่าวกันนะคะ” นิจหันไปโทรต่อ
ดวงสวาทท่าทางเซ็งๆเหนื่อยๆ ไม่อยากเอาความทุกข์เข้าหัวเพิ่มอีก “เขาคงก็ไปเที่ยวเดี๋ยวก็กลับ เขาเป็นฝรั่งนะคะแม่ ท่าทางเขารวยจะตาย เขาจะโกงเงินเราทำไม”
บ้านพระพิจารณ์ธุรกิจ รินนั่งบีบนวดให้พระพิจารณ์ธุรกิจที่ตื่นอยู่
ช้องนางเดินนำชรัตน์เข้ามา“หลานเชิญเรามาวันนี้ มีเรื่องจะคุยใช่ไหม”
“ค่ะ หนูอยากคุยต่อหน้าคุณพ่อ อยากจะขออนุญาตทุกคน”
“เรื่องศรัณย์ใช่ไหม”
“ค่ะ หนูกับคุณศรัณย์ เราแทบไม่รู้จักกันมาก่อนที่จะแต่งงานกัน ที่เรามีอยู่ทุกวันนี้เป็นแค่ความรัก ความเสน่หาของชายหญิง เพราะเหตุนี้ถึงเกิดเรื่องขึ้น ทั้งหมดเพราะเรารู้จักกันไม่มากพอ”
“ชีวิตคู่จะเติบโตไปกับวัยของหลาน หลานกับศรัณย์กำลังเรียนรู้กันและกัน อย่าเพิ่งเสียกำลังใจนะ”
“คุณศรัณย์เป็นคนแปลก เขาอุทิศทั้งชีวิตเพื่อปราบปรามโจร โดยไม่สนใจต่อลาภ ยศ สรรเสริญ การที่หนูเป็นแค่ลูกชาวป่าชาวดง กลับทำให้เขารู้สึกอบอุ่นปลอดภัย”
“แล้วมันจะต่างกันตรงไหนกับการที่น้องจะเป็นลูกคุณพระ หรือลูกชาวป่า น้องก็คือรินคนเดิม รักก็คือรัก”
“ชีวิตคู่อยู่ด้วยความรักอย่างเดียวไม่ได้หรอกค่ะ 1 บวก 1 ต้องรวมเป็น 1 รวมเป็นสองไม่ได้ ดิฉันอยากจะขออนุญาตคืนทรัพย์สมบัติต่างๆให้กับรพิพันธ์ ไม่ขอรับทั้งบ้าน ทั้งตำแหน่งต่างๆ คุณศรัณย์จะได้สบายใจ”
ทั้งหมดตกใจมาก พระพิจารณ์ธุรกิจส่งเสียงอ้อแอ้ออกมา
“คืนทั้งหมดเลยหรือจ๊ะ”
“ไม่ได้! พี่ไม่รับคืน พี่ไปตามเรากลับมาเพราะรู้สึกผิดที่ไม่ได้เลี้ยงดูแม่เรียง พอรู้ว่าแม่เรียงตาย เราทุกคนยิ่งเสียใจ ยังไงน้องก็ต้องให้โอกาสเราชดเชยให้น้องบ้าง ใช่ไหมครับคุณพ่อ”
“ไม่คืน…. ไม่คืน” พระพิจารณ์ธุรกิจส่ายหน้าไปด้วย เคลื่อนไหวดีกว่าแต่ก่อน
“โธ่คุณพ่อ ช่างกรุณาหนูเหลือเกิน”
“คุณพี่ไม่ใช่คนเจ้าชู้ ท่านเป็นสุภาพบุรุษ ถึงแม้ท่านได้เมียชาวป่าชาวดง อย่างแม่เรียงท่านก็อยากรับผิดชอบ ถึงแม้หลานไม่ต้องการทรัพย์สมบัติใดๆ แต่พวกเราอยากเห็นหลานอยู่ในฐานะที่สมควร นี่คือความถูกต้องเข้าใจไหม”