บทละครโทรทัศน์ ปดิวรัดา ตอนที่ 15 หน้า 5
“ครับ เรายังมีโอกาส” ศรัณย์บอกผู้ว่า “ผมจะชิงทองคืนมาให้ได้ ผมไปก่อนนะครับ” ศรัณย์ออกไป
ผู้ว่าพยายามต่อโทรศัพท์กับบรานี คุณหญิงแก้วกับคุณหญิงพิมยืนลุ้นอยู่
หน้าบ้านพณิช พณิชขับรถมาจอด รินกำลังจะเข้าไปนั่ง ศรัณย์วิ่งตามมา จู่ๆ ศรัณย์ ก็ดึงรินที่กำลังจะก้าวขึ้นรถเข้ามากอดจนพณิชยังอึ้ง สองหนุ่มสาวกอดกันเหมือนกำลังจะลาตายไปจากกัน เพราะอาจตายได้ทุกเมื่อ
ศรัณย์กระซิบข้างหู “อวยพรผมสิ”
“ไม่อวยพร” ศรัณย์งง ถอนตัวออกมามองหน้า สีหน้ารินจริงจังเต็มไปด้วยความรู้สึก “มีแต่คำสั่ง ! ...ฉันจะกลับไปพักที่บ้าน เพราะฉะนั้นฉันขอสั่งคุณ คุณต้องกลับมาเจอฉันที่บ้าน”
ศรัณย์ซาบซึ้ง พยักหน้า ทั้งสองกอดกันอีกครั้ง ศรัณย์รีบปล่อย แล้วเปิดประตูให้รินเข้าไปนั่ง
พณิชรีบบอก “ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะดูแลคุณรินให้”
ศรัณย์พยักหน้า เสนอเอารถมารับพอดี ศรัณย์ รีบวิ่งไปขึ้นรถเสนอ แยกกันไปคนละคัน
ที่ว่าการอำเภอ ดวงสวาทในสภาพผมยาวสลวยขาดไปครึ่งหนึ่งที่มุมหนึ่งของศีรษะ เสือขาวไม่ได้ปาดคอ แต่ตัดผมดวงสวาทหายไปครึ่งหนึ่ง ดวงสวาทร้องไห้โยเยพูดไม่รู้เรื่อง จิ้มลิ้มนั่งข้างๆ คอยปลอบ
เจ้าหน้าที่ซัก “นอกจากตัดผม มันทำอะไรคุณหรือเปล่า” ดวงสวาทส่ายหน้า
“โฮ้ยตอนนั้น กรี๊ดกันลั่น นึกว่ามันจะเชือดคอ มันตัดผมเสร็จ ฉับเดียวเลย มีดคมมากแล้วก็หนีไปเลย โชคดีนะคะเนี่ย นรกยังไม่ต้องการตัว” ดวงสวาท ชะงักมองหน้าจิ้มลิ้ม จิ้มลิ้มยังมั่นใจ ตอบเสียงจริงจัง “หมายถึงยังไม่ถึงคราวค่ะ แถวบ้านจิ้มลิ้มพูดแบบนี้”
“แล้วมันหนีออกไปทางไหนครับคุณนาย มันไปทางไหนแล้ว”
“โฮ้ย ไอ้พวกบ้า ยังจะมาถามอะไรฉันอีก ฉันเกือบตาย พวกแกนั่นแหล่ะหายไปไหนหมด ฉันเกือบตายอยู่แล้ว พวกแกรู้ไหม”
“รูปพรรณสัณฐาน มันเป็นไงครับคุณนาย มันบอกหรือครับว่ามันคือเสือขาว”
ดวงสวาท ร้องไห้โฮ ไม่มีใครให้ความช่วยเหลืออะไรได้ เอาแต่ฟูมฟายต่อไป “ไอ้บ้า ยังไม่เลิกถามอีก ฉันไม่รู้ ไม่รู้ ไปตามศรัณย์ มาเดี๋ยวนี้ ไปสิ ไป๊ ไปบอกเขาเลย ว่าฉันเกือบตายอยู่ตรงนี้ ไปสิ ไป๊”
นักข่าวถ่ายรูปดวงสวาทร้องไห้ โดยไม่มีใครสนใจนักข่าว
จุดสกัดที่ 1 รถชาวบ้านผ่านมา ตำรวจตั้งด่าน ตรวจตราตามปรกติ คนขับรถบรรทุกของเสือขาวที่ปล้นร้านทองขับเข้ามาที่ด่านตรวจของตำรวจ สารวัตรนั่งอยู่ ถือวิทยุสื่อสาร “ขนอะไรมา”
“ฟางครับ ตรวจดูได้เลยครับ” คนขับรถตอบ
ตำรวจเปิดผ้าคลุมดูผิวๆ มุมหนึ่งเห็นแต่ฟางจริงๆ สารวัตรเดินออกมาดู มาหาตำรวจสองที่ตั้งโต๊ะอยู่ “ได้ทะเบียนรถพวกมันแล้ว จดไว้เลย”