บทละครโทรทัศน์ หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 1 หน้า 8
พระราชาข่านพยายามแย่งกริช โมโหมาก “หุบปากของเจ้าได้แล้ว เจ้าคิดจะแย่งตำแหน่งข้า พอข้าไม่ให้ ก็ระแวงไปเองทั้งนั้น ไม่มีใครทำกระไรเจ้าสักหน่อย” ทั้งคู่ยื้อยุดกริชกันไปมาอยู่
ขันทอง และพันหาญหาจังหวะช่วย แต่ทั้งคู่ก็แย่งกันไปมา ไม่อยู่นิ่ง ทำให้จับตัวลำบาก ทันใดนั้นเอง สิขันทินก็สะดุ้งเฮือกขึ้น ตาเบิกโปน หันไปจ้องพระราชาข่านด้วยความตกใจสุดๆ ก่อนที่ร่างของสิขันทินจะทรุดร่วงลงกับพื้น ทุกคนพากันตกใจสุดๆ เห็นท้องของสิขันทินมีรอยแผลฉกรรจ์ และกริชของสิขันทินก็อยู่ในมือพระราชาข่าน ตัวกริชเลอะเลือดเต็มไปหมด ที่แท้ระหว่างแย่งกริช พระราชาข่านเผลอแทงกริชเข้าใส่สิขันทิน สิขันทินดิ้นอยู่สองสามที ก่อนจะแน่นิ่งขาดใจตายไป พระราชาข่านดูกริชในมือ และดูศพของสิขันทินด้วยความตกใจสุดขีด ทำอะไรไม่ถูก ขันทอง เครียดหนัก ขันทีมาใหม่ตายไม่ใช่เรื่องเล็กๆ พวกตนจะหาทางออกจากเรื่องนี้ยังไงดี
1 ปี ผ่านไป บรรยากาศตอนเช้าบ้านของมิ่ง บ้านมิ่งเป็นโรงงานทำกระดาษที่ใหญ่ที่สุดในอยุธยา มีคนงานมากมายช่วยกันทำกระดาษ เห็นขั้นตอนการทำกระดาษสมัยโบราณ ตั้งแต่การต้มเอาเยื่อกระดาษ การแผ่กระดาษ การตาก ฯลฯ บริเวณบ้าน เห็นพวกทาสชายยืนหน้าตาถมึงทึง ล้อมทั่วบริเวณเรือนอย่างแน่นหนา ราวกับจะเกิดศึกสงคราม ที่บนเรือน มิ่งกำลังเดินคุยกับชื่น และอิน โดยมีพวกทาสหญิงเฝ้าตามจุดต่างๆบนเรือนอย่างขยันขันแข็ง
“นังแมงเม่าเป็นอย่างไรบ้าง”
ชื่นยิ้มแย้ม “อย่าห่วงเลยเจ้าค่ะพี่มิ่ง สงบเสงี่ยมเรียบร้อยอยู่ในห้อง ราวกับผ้าพับไว้ก็ไม่ปาน”
มิ่งกระหยิ่มยิ้มย่อง “ต้องอย่างนี้ซี ดูตัวครานี้ คุณท้าวท่านมาเป็นแม่สื่อด้วยตนเอง จะขายขี้หน้าท่านไม่ได้เป็นอันขาด”
ทั้งสามคนเดินถึงห้องนอนของแมงเม่า อินเคาะประตู “แมงเม่า เปิดประตูที พ่อกับน้าชื่นมาหา”
เงียบ ไม่มีเสียงตอบ อินเคาะประตูอีก “แมงเม่า”
มิ่งชักทะแม่ง “เปิดเข้าไปเลยแม่อิน ชะรอยนังแมงเม่าจะไม่อยากดูตัว ก็เลยตะแหง่แง่งอนเอา”
อินเปิดประตูตามที่พ่อสามีสั่ง แต่พอเปิดเข้าไป ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นแมงเม่ากำลังตั้งท่าจะปีนหน้าต่างจะกระโดดหนี อินตกใจ “แมงเม่า” แมงเม่าเห็นทุกคนเข้ามาก็ตกใจ เลยรีบกระโดดลงจากหน้าต่างทันที
มิ่ง ชื่น และอิน ห่วงแมงเม่า รีบเข้าไปดูที่หน้าต่างทันที เห็นแมงเม่าลุกขึ้นยืนปกติ เอามือตบก้นปัดเปื้อนไปมา ไม่มีร่องรอยบาดเจ็บแม้แต่น้อย มิ่งเห็นลูกปลอดภัยก็โล่งอก ก่อนจะโวยลั่น
“เอ็งทำกระไรของเอ็งวะ นังแมงเม่า ประเดี๋ยวกระดูกกระเดี้ยวก็หักไปดอก”