บทละครโทรทัศน์ หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 4 หน้า 2
เจ้าจอมเพ็ญรีบขัด “ไม่ได้ เท่าที่คนของข้าสืบมา นังเด็กนั่นเป็นที่โปรดปรานของกรมขุนวิมลนัก ถึงขนาดทรงประทานพระนามของ พระองค์เองให้ใช้ หากเราฆ่ามัน จะมีเรื่องยุ่งยากตามมาอีกมาก อีกประการเรายังไม่รู้แน่ว่าของอยู่ที่มันจริงหรือไม่ ข้าไม่อยากตีป่าให้เสือตื่น” เจ้าจอมเพ็ญยิ้มบางๆ “สู้อดทนรออีกสักพักจะดีกว่า”
จมื่นศรีสรรักษ์งงๆ “รอกระไรหรือขอรับ”
เจ้าจอมเพ็ญลูบท้องตัวเองเบาๆอย่างมีความสุข “ก็รอหน่อพระพุทธเจ้าในท้องของข้าน่ะซี”
จมื่นศรีสรรักษ์ดีใจสุดๆ “นี่คุณพี่ตั้งครรภ์แล้วหรือขอรับ”
พระยาพลเทพ และขุนแผลงฤทธิ์ต่างดีอกดีใจ เพราะเป็นสิ่งที่พวกตนรอมานาน เจ้าจอมเพ็ญยิ้มมั่นใจ
“ขรัวเถื่อนผู้นั้นช่างเก่งกาจนัก ข้าทำตามที่บอกไม่ทันไรก็ได้ทุกอย่างสมใจ อีกไม่นานข้าก็จะได้เป็นแม่หยั่วเมือง ถึงตอนนั้นต่อให้มีหนังสือลับมากางตรงหน้า ข้าก็หากลัวไม่” เจ้าจอมเพ็ญหน้าเชิดคอตั้งบ่า ยิ้มผยอง
กระท่อมร้างปลายนาหลังหนึ่งตอนกลางคืน ภายในกระท่อมมืดสนิท แต่แล้วจู่ๆ ก็มีแสงไฟออกมาจากในกระท่อม พันหาญเป็นคนจุดเทียนไข เพื่อคุยกับขันทอง (ขันทองแต่งชุดรัดกุม ไม่ได้ใส่ชุดขันที)
“ทำกันถึงขนาดนี้ มิต้องสงสัยเลย มันเป็นเรื่องสำคัญแน่ แต่พ่อขันทองรู้ได้อย่างไร ว่าจะเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราอยากรู้” ขันทองหน้าขรึมลง “ฉันไม่รู้ดอกจ้ะ แต่เป็นเบาะแสเดียวที่เรามีตอนนี้ ฉันจึงไม่อยากจะทิ้งไป แลหากไม่เกี่ยวข้องกัน ก็ถือเสียว่าน้าพันหาญได้ทำบุญช่วยชีวิตคนก็แล้วกัน”
พันหาญหัวเราะขำๆ “พูดเรื่องบุญเรื่องกุศลแล้ว น้าตะครั่นตะครอบอกไม่ถูก แค่ต้องเปลี่ยนจากโจรมารับราชการเป็นหัวพัน ก็สมเพชตัวเองเหลือเกินแล้ว”
ขันทองยิ้มขำๆ “น้าทำเพื่อพ่อฉันนี่จ๊ะ ไม่อย่างนั้น ก็คงไม่ต้องฝืนใจเช่นนี้” ขันทองนึกขึ้นได้ “น้าพันหาญจ๊ะ แล้วคนที่ว่าจ้างเรา ว่าอย่างไรบ้างจ๊ะ”
“เหมือนเดิม น้ามีข่าวกระไรก็ส่งไปให้ ทางฝ่ายนั้นก็ให้คนเอาเบี้ยมาให้มิได้ขาด” พันหาญแปลกใจ “แต่จนแล้วจนรอด น้าก็ไม่รู้เสียทีว่าผู้ใดกันแน่ที่ว่าจ้างเรา ช่างลึกลับนัก”
ขันทองกลุ้มใจมาก “ฉันเองก็หนักใจเรื่องนี้เหลือเกิน แต่ถ้าไม่ได้คนผู้นี้ เราก็คงแฝงตัวเข้ามาไม่ได้ แต่จนป่านฉะนี้ ก็ยังไม่รู้ว่าเราทำงานให้ใคร”
“ถึงไม่รู้ตัวตน แต่เค้าก็เพียงแต่จ้าง ให้เราหาตัวคนทุรยศบ้านเมืองออกมา คงมิใช่คนชั่วร้ายกระไรดอก เออ แล้วทางพ่อขันทองกับอ้ายแน่นเป็นอย่างไรบ้าง”
“ฉันไม่เป็นกระไรดอกจ้ะ แต่อ้ายแน่น” ขันทองหนักใจแทนเพื่อน “ดีที่ปู่มันเป็นฝาหรั่ง หน้าตามันบอกว่าเป็นแขกขาว คนจึงไม่สงสัย แต่กิริยาท่าทางก็ยังแปลกแปร่งจากขันทีคนอื่นอยู่ ฉันกลัวเหลือเกิน ว่าสักวันอ้ายแน่นจะพลาด” สีหน้าขันทองมีแววกังวลๆ