บทละครโทรทัศน์ หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 10 หน้า 4
พระเจ้ามังระกำลังทรงกระหยิ่มยิ้มย่อง เพราะทรงพระราชดำริอย่างนั้นเหมือนกัน แต่ขณะนั้นเองพระเจ้ามังระ ทอดพระเนตรเห็นทหารกลุ่มหนึ่ง กำลังช่วยกันหาม แบก ทหารที่บาดเจ็บมา แล้วช่วยกันทำแผล หายาให้กิน สภาพทหารแต่ละคนดูอิดโรย อ่อนแรงมาก พระเจ้ามังระมีสีพระพักตร์เคร่งเครียด ดูกังวลขึ้นมา รอยพระสรวลบนพระพักตร์จืดจางไปทันที
ท้องฟ้ายามค่ำคืน พระเจ้ามังระทรงกำลังใช้กิ่งไม้วาดแผนที่อยุธยาคร่าวๆ และวาดจุดตั้งทัพของกองทัพตนบนพื้นดิน โดยมีคบไฟวางอยู่ใกล้ๆ ขณะนั้นเองก็ได้ยินเสียงผิดปกติดังขึ้น พระเจ้ามังระทรงชักพระแสงปืนพกที่เหน็บพระกฤษฎีออกมาเล็งทันที พระเจ้ามังระทรงตวาดถาม “นั่นใคร”
อะแซหวุ่นกี้เดินเข้ามาหาพระเจ้ามังระ อะแซหวุ่นกี้พนมมือ Wข้าพระพุทธเจ้าเองพระพุทธเจ้าข้า”
“เจ้าเองรึ อะแซหวุ่นกี้” พระเจ้ามังระทรงเหน็บพระแสงปืนกลับที่เดิม “รู้ได้อย่างไรว่าข้าอยู่ที่นี่”
“ข้าพระพุทธเจ้าไปเข้าเฝ้าที่พลับพลามา แต่พระองค์ไม่ทรงประทับอยู่ ข้าพระพุทธเจ้าจึงคาดเดาเอาว่าอาจจะอยู่ที่นี่ เหมือนเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์” อะแซหวุ่นกี้ยิ้มบางๆเมื่อนึกถึงวันเก่า “เพลามีเรื่องยุ่งยากใจ พระองค์มักทรงเก็บองค์อยู่เพียงพระองค์เดียวพระพุทธเจ้าข้า”
พระมังระทรงพระสรวลชอบพระทัย “สมแล้ว ที่เจ้าเห็นข้ามาแต่เล็กแต่น้อย จะหาผู้ใดรู้ใจข้าเช่นเจ้าเป็นไม่มี”
อะแซหวุ่นกี้มองไปที่ภาพแผนที่บนพื้น “พระองค์ทรงกำลังวางแผนเข้าตีอโยธยาอยู่หรือพระพุทธเจ้าข้า”
พระเจ้ามังระพยักพระพักตร์รับ “ใช่ แต่ข้าไม่คิดไปด้วยตัวเองดอกนะ”
“ทำไมเล่า พระองค์ไม่ทรงหวังในพระเกียรติยศหรือพระพุทธเจ้าข้า”
พระเจ้ามังระถอนพระทัย พระพักตร์เครียดขึ้นมา “เกียรติยศ อันแลกมาด้วยความเสื่อมโทรมของอังวะอย่างนั้นรึ”
“หมายความว่าอย่างไร พระพุทธเจ้าข้า”
“พระเจ้าชำนะสิบทิศ ใช้กองทัพอันยิ่งใหญ่พิชิตอโยธยาได้ก็จริง แต่ก็เสียทั้งไพร่พลแลทรัพย์สินมหาศาล พอเสด็จสวรรคต หงสาวดีก็อ่อนแอลงทันที ข้าไม่อยากให้อังวะเป็นเช่นนั้น แลอาณาเขตของพุกามประเทศก็กว้างใหญ่ไพศาลนัก จะเอาอโยธยามาเพิ่มอีกทำกระไร”
อะแซหวุ่นกี้คิดตามอยู่ครู่หนึ่ง “พระองค์จะทรงบุกอโยธยา แต่ไม่ทรงคิดยึดครองอย่างนั้นหรือพระพุทธเจ้าข้า”
พระเจ้ามังระทรงแย้มพระโอษฐ์ พอพระทัย “ข้าบอกแล้ว ว่าไม่มีผู้ใดรู้ใจข้าเกินเจ้า มาเถิด มาวิจารณ์แผนการของข้าดูสักหน่อย ว่าถูกผิดประการใดบ้าง” พระเจ้ามังระทรงใช้กิ่งไม้ชี้ไปตามจุดต่างๆ แล้วทรงอธิบายแผนให้อะแซหวุ่นกี้ฟัง ทั้งคู่หารือกันอย่างเคร่งเครียด