บทละครโทรทัศน์ หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 10 หน้า 5
ค่ายทหารมังมหานรธา มังมหานรธากับทหารกำลังนั่งคุกเข่าพนมมือ ฟังพระบรมราชโองการของพระเจ้ามังระ
ที่ให้ทหารถือมาอ่านให้ฟัง
“ด้วยอังวะกรำศึกมานานปี แลเพลานี้ก็มีกบฏเมืองมณีปุระอยู่ จึงไม่ควรที่จะจัดทัพกษัตริย์ให้ลำบากแก่อาณาประชาราษฎร์อีก ฉะนั้น การศึกอโยธยาจึงขอให้เป็นหน้าที่ของแม่ทัพมังมหานรธา...”
ค่ายทหารเนเมียวสีหบดี เนเมียวสีหบดีกับทหารกำลังนั่งคุกเข่าพนมมือ ฟังพระบรมราชโองการของพระเจ้ามังระอยู่เช่นกัน “กับแม่ทัพเนเมียวสีหบดี จงยกทัพลงมาพร้อมกัน บีบอโยธยาให้อยู่ตรงกลาง แต่ศึกนี้ มิใช่เพื่อยึดครองอโยธยา หากแต่...”
ค่ายทหารมังมหานรธา มังมหานรธาฟังพระบรมราชโองการอย่างตั้งใจและคิดตาม
“เป็นการทำลายอโยธยา มิให้ฟื้นคืนกลับมาเป็นเสี้ยนหนามต่ออังวะได้อีก...”
ค่ายทหารเนเมียวสีหบดี เนเมียวสีหบดี ฟังพระบรมราชโองการอย่างตั้งใจและคิดตาม
“...อโยธยามีชัยภูมิเหมาะแก่การตั้งรับ แลทัพทั้งสองมีเพียงสี่หมื่น แม้จะส่งกำลังมาเพิ่มให้ทัพของมังมหานรธาอีกหนึ่งหมื่น ก็มีเพียงห้าหมื่น ไม่อาจหักเข้าอโยธยาได้โดยเร็ว...”
ค่ายทหารมังมหานรธา มังมหานรธา ฟังพระบรมราชโองการอย่างตั้งใจและคิดตาม
“...ฉะนั้น จึงต้องใช้แผนการรบยืดเยื้อ ทัพทั้งสองจงสะสมเสบียงไว้ให้มาก แล้วเคลื่อนพลในหน้าหนาวนี้
เพื่อจะได้มีเวลาทำศึกนานขึ้น...”
ค่ายทหารเนเมียวสีหบดี เนเมียวสีหบดี ฟังพระบรมราชโองการอย่างตั้งใจและคิดตาม
“ระหว่างเดินทัพ ให้หลีกเลี่ยงการปะทะกับทัพใหญ่ แต่ให้โจมตีเมืองเล็กที่อ่อนแอเพื่อรวบรวมเสบียง
เมืองใดยอมอ่อนน้อม ให้ยึดเสบียงแลข้าวของ แต่ห้ามทำร้ายผู้คนโดยเด็ดขาด...”
ค่ายทหารมังมหานรธา มังมหานรธา ฟังพระบรมราชโองการอย่างตั้งใจและคิดตาม
“แต่หากเมืองใดขัดขืน ให้ฆ่าสิ้นเสียทั้งเมือง อย่าให้เป็นเยี่ยงอย่าง แลทัพทั้งสองนั้น ให้เป็นสิทธิขาดแก่แม่ทัพ
แต่แม้จะมีอิสระต่อกัน ก็จงประสานกันให้ดี อย่าชิงดีชิงเด่นให้เสียการเป็นอันขาด...”
ค่ายทหารมังมหานรธา ค่ายทหารเนเมียวสีหบดี มังมหานรธาและเนเมียวสีหบดีพนมือไหว้ขึ้นเหนือหัว พร้อมกัน “รับด้วยเกล้า พระพุทธเจ้าข้า”