บทละครโทรทัศน์ หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 27 (จบบริบูรณ์) หน้า 23

แมงเม่าลุกขึ้น แล้วหันหน้าไปทางทิศของเมืองอังวะ ก่อนจะคุกเข่าลง พนมมือ แมงเม่าร้องไห้ไปพูดไป
“อังวะนั้นไกลนัก แลเป็นคู่ศึกคู่สงครามกัน หม่อมฉันคงไม่อาจถวายรับใช้ได้อีกแล้ว แต่หากชาติหน้ามีจริง
หม่อมฉันจะขอเป็นข้ารับใช้เสด็จทุกชาติไปเพคะ”
แมงเม่าก้มลงกราบที่พื้นทั้งน้ำตา แสดงความรักและภักดีที่มีต่อกรมขุนวิมลอย่างหมดหัวใจ
บรรยากาศวัดร้างแห่งหนึ่งตอนกลางวัน เต็มไปด้วยซากปรักหักพังเต็มไปหมด ขันทองเดินคุยมากับแมงเม่า
ขันทองบ่นเซ็งๆ “นี่หรือเรื่องสำคัญของเจ้า ให้ฉันลาราชการมาอโยธยานี่น่ะ มีแต่เศษอิฐเศษไม้ ผ่านมาเป็นปี ยังหาคนอยู่แทบไม่มี จะเป็นเมืองร้างอยู่แล้ว”
แมงเม่าหมั่นไส้ “ขี้บ่นเสียจริง นึกเสียว่ามาเยี่ยมน้าพันหาญซีจ๊ะ น้าท่านมาทำราชการอยู่ที่นี่ มาเยี่ยมสักหน่อย จะเป็นกระไรไป”
ขันทองระแวง “ไม่แค่นั้นกระมัง บอกฉันมาดีกว่า ว่าเจ้า...”
ขณะนั้นเอง พันหาญก็เดินนำลูกน้องจำนวนหนึ่งมา ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
“พ่อขันทอง มาแล้วรึ กำลังรออยู่เทียว” ขันทองแปลกใจขึ้นไปอีก “รอฉัน มีกระไร...”
ขณะนั้นเอง ขันทองก็เหลือบเห็นก้อนดินก้อนหนึ่งขว้างมาใส่แมงเม่า ขันทองเลยรีบดึงตัวแมงเม่าหลบ ก้อนดินเลยเฉียดแมงเม่าไปนิดเดียว ขันทองหันไปมองตาม เห็นคนขว้างแต่งตัวสกปรกมอมแมมแล้วรีบหนีไป
ขันทองโมโห เลยรีบตามไปทันที “พี่ขันทอง ไม่ต้องตามจ้ะ” แมงเม่าห้าม ขันทองไม่ฟัง วิ่งตามไปแล้ว
ขันทองวิ่งตามมาจนทัน แล้วคว้าข้อมือไว้ ขันทองไม่พอใจ “เอ็งเป็นใคร มาทำร้ายเมียข้า...”
ขันทองชะงักเมื่อคนๆนั้นหันกลับมา แม้จะสกปรกมอมแมมใส่เสื้อผ้าขาดวิ่น ไม่มีสง่าราศี แต่ก็ดูออกว่าเป็นใคร
ขันทองตกใจสุดๆ “เจ้าจอมเพ็ญ”
เจ้าจอมเพ็ญกระชากมือหลุดออกมา เสียสติไปแล้วตะคอกใส่ “มึงกล้าแตะต้องตัวกูรึ รู้หรือไม่ ว่ากูเป็นใคร กู แม่หยั่วเมืองแห่งอโยธยาศรีรามเทพนคร ขี้ข้าอย่างเอ็งกล้าดีอย่างไร มาแตะเนื้อต้องตัวกูให้มีเสนียด ทหาร เอามันไปตัดหัว ตัดให้สิ้นทั้งเจ็ดชั่วโคตร” ขันทองตะลึงไปหมด ไม่คิดว่าเจ้าจอมเพ็ญจะบ้าไปแล้ว
ขณะนั้นเอง แมงเม่าก็เดินตามเข้ามา
“เจ้าจอมเพ็ญเสียสติเจ้าค่ะ อย่าว่าแต่คนอื่นเลย แม้แต่ตัวเอง เพลานี้ก็จำไม่ได้”