บทละครโทรทัศน์ ตอนจบ กำไลมาศ ตอนที่ 30 หน้า 7
หม่อมเจ้าหญิงรัมภาหน้าหันและล้มลงกับพื้น ริ้วทองรีบฉวยโอกาสพยุงตัวเองลุกขึ้นวิ่งกลับไปในทางที่เดินมา หม่อมเจ้าหญิงรัมภาหันหน้ากลับมามองริ้วทอง...เลือดสดๆ ไหลออกจากหน้าผากปรกลงเต็มใบหน้าของหญิงสาว ดวงตาของเธอถลึงโตเพราะความโกรธ
รถหม่อมเจ้าหญิงภรณีขับเข้ามาจอด บัววิ่งออกมารับกระเป๋า “บัว...ปรุงกลับมาหรือยัง”
“ยังเพคะ”
หม่อมเจ้าหญิงภรณีคอตกเศร้า แล้วถาม “น้องหญิงล่ะ น้องหญิงกลับมาหรือยัง”
“กลับมาแล้วเพคะ แต่เห็นท่านหญิงเสด็จไปทางโน่นเพคะ”
ริ้วทองยกมือกุมท้องปิดแผลที่ถูกแทงวิ่งโซซัดโซเซฝ่าสายฝน พร้อมตะโกนร้องสุดเสียง “ช่วยด้วย! ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย !” แต่ฝนที่ตกหนักกลบเสียงร้องของริ้วทอง หนำซ้ำพิษบาดแผลก็สร้างความเจ็บปวดให้ริ้วทองจนต้องเซไปพิงกับต้นไม้ หายใจหอบถี่ หมดแรงไปต่อไม่ไหว
หม่อมเจ้าหญิงรัมภาเดินฉับๆ ตามริ้วทองมาด้วยสีหน้าโกรธแค้น ริ้วทองหันไปทางที่วิ่งมาแล้วตกใจ “ท่านหญิง !!!”
หม่อมเจ้าหญิงรัมภาเดินถือมีดเข้ามาท่ามกลางฝนที่ตกหนักมาก เธอมองหาริ้วทองไปรอบๆ แต่ไม่เห็นริ้วทองแล้ว
ริ้วทองแอบอยู่หลังพุ่มไม้ มือกุมแผลที่ท้องเอาไว้ตลอดเวลา ริ้วทองภาวนาเสียงเบา “พ่อจ๋า...แม่จ๋า...ช่วยริ้วด้วย”
ริ้วทองลุกขึ้นหนี แต่พอหันหลังไปก็ ต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบหม่อมเจ้าหญิงรัมภายืนอยู่ตรงหน้า
“มึงหนีกูไม่พ้นหรอก !” หม่อมเจ้าหญิงรัมภาปราดเข้าไปจิกผมของริ้วทองแล้วกระชากเหวี่ยงไปด้านหนึ่ง ริ้วทองล้มลงหัวกระแทกพื้น
“หม่อมชั้นกราบแล้วเพคะ อย่าทำร้ายหม่อมชั้นเลย หม่อมชั้นสัญญาว่าจะหนีไปให้ไกล จะไม่กลับมาเหยียบที่วังติณชาตินี้อีกเลย หม่อมชั้นจะไม่เอาอะไรติดตัวไปเลย ยกเว้นกำไลวงนี้วงเดียวเท่านั้น ขอให้หม่อมชั้นเถอะนะเพคะ”
หม่อมเจ้าหญิงรัมภามีสีหน้าอ่อนลงแล้วลุกขึ้นจากร่างของริ้วทอง ริ้วทองประคองตัวเองลุกขึ้นแต่ลุกได้ยากลำบากเพราะเจ็บแผลที่ท้อง หม่อมเจ้าหญิงรัมภาจึงยื่นมือให้ริ้วทอง ริ้วทองเงยหน้ามองอย่างหวั่นใจ หม่อมเจ้าหญิงรัมภาแสยะยิ้มที่มุมปาก พร้อมกับบีบมือริ้วทองแน่น จนริ้วทองตกใจ “ท่านหญิง ท่านหญิงจะทำอะไร “
หม่อมเจ้าหญิงรัมภาฟันมีดลงไปที่ข้อมือของริ้วทอง ริ้วทองกรีดร้องดังลั่น !
หม่อมเจ้าหญิงภรณีเดินเข้ามา “เสียงใคร ?”
ริ้วทองจับมือกุมที่ข้อมือถูกตัดขาดและดิ้นทุรนทุรายอย่างเจ็บปวด ริ้วทองไปชนร่างของหม่อมเจ้าหญิงรัมภากระเด็นล้มลง มือของริ้วทองที่อยู่ในมือของหม่อมเจ้าหญิงรัมภากระเด็นลอยไปตกพื้นตรงหน้าเท้าของหม่อมเจ้าหญิงภรณีที่เดินกางร่มเข้ามาพอดี