บทละครโทรทัศน์ กำไลมาศ ตอนที่ 28 หน้า 5
เจิมแอบเบ้ปากหมั่นไส้
“แล้วนี่เป็นอย่างไรบ้าง ดีขึ้นหรือยัง”
“ดีขึ้นมากแล้วเพคะ” เธอไม่กล้าถามมาก “แล้ว..แล้วท่านชาย..”
“เวลานี้ดิเรกก็ไม่ค่อยจะสบายเช่นกัน”
ริ้วทองตกใจ “ท่านชายเป็นอะไรเพคะ”
“เธอไม่ต้องรู้หรอกนะ เพราะเธอรู้ไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ ทำใจให้สบายเถอะ จะได้หายเร็วๆ ที่ชั้นแวะมาหาเธอ ชั้นก็เพียงจะมาบอกเธอแทนลูกชายชั้น รอให้ชั้นจัดการปัญหาที่ค้างคาให้สำเร็จ แล้วชั้นจะให้คนที่ศุภมาศมารับเธอกลับไป”
“แต่ท่านชายไม่รักหม่อมชั้นแล้ว”
“ไม่จริง เธอยังเป็นคนที่ลูกชายชั้นรักอยู่เสมอ”
ริ้วทองร้องไห้ดีใจ “ จริงหรือเพคะ”
หม่อมเจ้าหญิงถมยาพยักหน้า ริ้วทองร้องไห้ดีใจ
หม่อมเจ้าหญิงรัมภายืนคอย หม่อมเจ้าหญิงถมยากับเจิมเดินมาจากทางเรือนพักนายรวย
“เสร็จธุระกับริ้วทองแล้วหรือเพคะ”
“จ้ะ อันที่จริงน้าเคยไม่อยากได้ริ้วทองมาเป็นสะใภ้ แต่เรื่องล้อมเพชรทำให้น้ารู้ว่า...อย่างน้อยริ้วทองก็เป็นผู้หญิงที่ดิเรกรักด้วยหัวใจจริงๆ ตอนนี้ดิเรกถูกอำนาจมืดปิดหูปิดตาให้ไม่มีสติ แต่ถ้าดิเรกรับรู้ได้ เขาก็คงอยากจะให้ปฏิบัติกับริ้วทองเช่นนั้น”
“ท่านน้าทำถูกต้องแล้วค่ะ”
หม่อมเจ้าหญิงถมยายิ้มรับแล้วถาม “แล้วเรื่องล้อมเพชร หญิงจะให้น้าทำอย่างไรต่อไป”
“ท่านน้ายังไม่ต้องทำอะไรเพคะ แค่ทำพระองค์ให้เป็นเหมือนเดิม อย่าให้ล้อมเพชรรู้ตัวว่าวิชาคุณไสยที่อยู่ในพระวรกายของท่านน้าได้หมดไปแล้ว ล้อมเพชรจะได้ตายใจ”
หม่อมเจ้าหญิงถมยาพยักหน้ารับ
วังศุภมาศ หม่อมเจ้าดิเรกใบหน้าหมองคล้ำนั่งไอค่อกแค่กอย่างคนไม่สบายอยู่กับล้อมเพชร หม่อมเจ้าหญิงถมยาเดินกลับเข้ามาภายใน
“ท่านแม่ทำไมกลับมาช้านักคะ พวกติณชาติทำอะไรท่านแม่หรือเปล่าคะ”
“ไม่จ้ะ ที่แม่กลับช้าเพราะเสด็จฯท่านมัวแต่ปรึกษาหารือเรื่องจะส่งชายอรรถไปทำงานที่เชียงใหม่”
ล้อมเพชรมองถมยาอย่างจับผิด “เท่านั้นเองหรือเพคะ”
“จ้ะ เท่านั้นเอง” หม่อมเจ้าหญิงถมยารู้ทันว่ากำลังถูกจับผิด
หม่อมเจ้าดิเรกบ่นหงุดหงิด “พวกติณชาติน่าเบื่อเสียจริง จะทำการใดก็ต้องเดือดร้อนเราไปเสียทุกเรื่อง”
หม่อมเจ้าหญิงถมยาแกล้ง “นั่นสิ แม่ล่ะเบื่อหน่ายอยู่เหมือนกัน ยิ่งกับหญิงรัมภา แม่ยิ่งไม่อยากจะเห็นหน้า” ล้อมเพชรมองหม่อมเจ้าหญิงถมยาแล้วยิ้มโล่งใจออกมา “แม่ขอตัวขึ้นไปพักผ่อนก่อนนะ เหนื่อยเหลือเกิน” หม่อมเจ้าหญิงถมยาเดินออกไป
ล้อมเพชรอ้อมกอดแขนหม่อมเจ้าดิเรกอย่างโล่งใจ “ท่านแม่ของท่านชายเสด็จกลับมาจากติณชาติได้อย่างปลอดภัย ค่อยสบายใจหน่อยนะเพคะ” หม่อมเจ้าดิเรกยิ้มรับ