บทละครโทรทัศน์ เสน่ห์นางงิ้ว ตอน 5 หน้า 3
“ครับ อาม่า”
“ไป...ไปหาที่นั่งกัน” ชยุติพามาลัยเข้ามาไปยังโรงงิ้ว
หลังเวทีโรงงิ้ว ตรึงจิตแต่งตัวเสร็จแล้วกำลังซ้อมบทอยู่หน้ากระจกอย่างอารมณ์ดี นกขมิ้นเอาน้ำชามาให้ตรึงจิตกิน ดูและประคบประหงมเป็นอย่างดี ดำเกิงแอบดูผู้ชมที่หน้าเวที แล้ววิ่งมาบอกเจียง
“ยิ่งเล่นคนยิ่งเยอะนะครู ดูสิคืนนี้คนดูเพียบเลย”
“สงสัยจะตามมาดูอาบัวแสดงแหงๆ”
“อ้าว! อย่างนี้เค้าก็ผิดหวังสิครู ถ้าคืนนี้บัวไม่ได้เล่น แต่เป็นพี่ตรึงจิต”
“ทำไม ฉันเล่นแล้วมันไม่ดีตรงไหนห๊ะ ไอ้เกิ่ง!”
“ทุกตรง อย่าให้สาธยายเลยดีกว่า”
“ไอ้เกิ่ง ดูถูกกันมากเกินไปแล้ว”
“เกิ่ง ลื้อมีอะไรทำก็ไปทำไป”
“ครับป๊า” ซินแสหลอบุ้ยใบ้ให้บัวตามดำเกิงไป “เฮียเจียง แน่ใจนะจะให้อาตรึงจิตเล่นเป็นนางเอกคืนนี้”
“ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้หรอกซินแส อาตรึงจิตอีอาจจะทำได้ดีก็ได้” ซินแสหลอส่ายหน้าไม่เห็นด้วยกับเจียง ก่อนจะเดินไปประจำที่หน้าเวที
บัวเยี่ยมหน้าตรงหลืบเวทีมองออกไปในหมู่ที่นั่งคนดู สายตาสอดส่ายไปในที่นั่งคนดู ท่ามกลางกลุ่มเด็ก ๆ ที่กำลังนั่งกินกระเพาะปลากับชยุติ มาลัย นั่งกินกระเพาะปลาอย่างเอร็ดอร่อย ท่าทางเป็นธรรมชาติ พูดคุยกับมาลัยที หันไปคุยกับเด็ก ๆ น่ารักน่าเอ็นดู บัวเผลอยิ้มออกมาอย่างลืมตัว ดำเกิงมาเห็นเข้า “ยิ้มอะไรเหรอบัว”
“เอ่อ...อาม่าใจดีคนนั้นมาอีกแล้วเกิ่ง”
“ไหน ?” ดำเกิงหันไปมองตาม “อ๋อ...อาม่าแกอยู่บ้านหลังใหญ่ปากซอยบ้านเรา... แกใจดีนะ ได้ยินมาว่าคืนนี้แกเหมากระเพาะปลาเลี้ยงเด็ก ๆ ด้วยแต่บอกตามตรง เกิ่งไม่ค่อยชอบขี้หน้าหลานชายแกเลย”
“ทำไมล่ะเกิ่ง ตอนเด็กๆ หลานชายแกก็เคยมาเล่นกับเราที่โรงงิ้วบ่อยๆ ทำไมถึงไม่ชอบเขาล่ะ”
“เวลาเปลี่ยน ใจคนก็เปลี่ยน เรากับเขามันคนละชั้นกัน เขาหายไปเรียนเมืองนอกตั้งนาน ยังไม่เคยมาบอกลาสักคำ คงไม่นับว่าเราสองคนเป็นเพื่อนแล้วล่ะ” บัวสลดลง คล้อยตามดำเกิง
หน้าเวทีงิ้ว เสียงดนตรีงิ้วประโคมดังขึ้นการแสดงกำลังจะเริ่ม นกขมิ้นร่ายรำออกมาเป็นคนแรก กลุ่มคนดู ชยุติกับมาลัย รอชมบัวในบทนางพญางูขาวที่จะออกมาพบพระเอกด้วยความตื่นเต้น บนเวทีตรึงจิตออกมาร่ายรำเป็นนางพญางูขาว เอาผ้าปิดหน้าก่อนที่จะเปิดออก ทุกคนตกตะลึงไปตามๆกัน ตรึงจิตร้องเนื้อเพลงนางพญางูขาวเสียงสูงปรี๊ด จนคนดูถึงกับแสบแก้วหู