รีเซต

[US Boxoffice] พาเน็มคัมแบ็ก "The Ballad of Songbirds and Snakes" เปิดตัวใช้ได้อยู่

[US Boxoffice] พาเน็มคัมแบ็ก "The Ballad of Songbirds and Snakes" เปิดตัวใช้ได้อยู่
Jeaneration
20 พฤศจิกายน 2566 ( 08:00 )
119

Box Office The Ballad of Songbirds and Snakes

บ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกา รายงานอันดับหนังทำเงินประจำสุดสัปดาห์วันที่ 17-19 พฤศจิกายน 2023 - ไฟแห่งการปฏิวัติกลับมาโชกโชนอีกครั้ง กับการกลับมาสานต่อแฟรนไชส์หนังเกมล่าเกมที่เคยรุ่งเรืองสุด ๆ ในช่วงทศวรรษก่อน โดยคัมแบ็กครั้งนี้ด้วยหนังภาคต้นจากเรื่องราวดั้งเดิมที่ถือว่าทำออกมาได้แจ่มไม่เบาใน "The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes" ที่ออกสตาร์ทได้ดี ขึ้นแท่นเป็นแชมป์หนังเรื่องใหม่บนบ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกาตามที่หลาย ๆ สำนักคาดเอาไว้

The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes ทำรายได้เปิดตัว 3 วันแรกไปได้ที่ 44 ล้านเหรียญ จาก 3,776 โรงฉายทั่วประเทศ หรือคิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงที่ราว 11,000 เหรียญเศษ นับว่าเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์และสตูดิโอคาดการณ์กันเอาไว้ แสดงให้เห็นว่าแฟนหนังชุดนี้ยังคงอ้าแขนให้การต้อนรับที่ดีอยู่ และตัวหนังเองก็ได้รับคำวิจารณ์ที่ค่อนข้างใช้ได้ กับ 61% บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes

ถึงแม้ว่าหนังอาจจะทำเงินเปิดตัวเทียบเคียงกับต้นฉบับไม่ได้ เพราะหนังทุกภาคจากต้นฉบับนั้น ล้วนแต่เป็นปรากฏการณ์ทำเงินเปิดตัวได้ระดับร้อยล้านเหรียญทุกเรื่อง แต่ก็นับว่าเป็นภาคต้นและการกลับมารีเซ็ตเรื่องราวครั้งใหม่ที่ไปได้ค่อนข้างสวย แม้ว่าหนังจะใช้ทุนสร้างไปประมาณ 100 ล้านเหรียญ แต่เชื่อว่าหนังจะทำเงินคุ้มทุนสร้างในอนาคตอันใกล้ โดยเฉพาะจากตลาดต่างประเทศที่ออกสตาร์ทไปได้เกือบ ๆ ร้อยล้านเหรียญแล้ว

รองแชมป์สัปดาห์นี้เป็ฯของ "Trolls Band Together" แอนิเมชั่นภาคต่อที่เป็นภาคที่ 3 ของหนังชุดนี้ ที่ยังทำผลลัพธ์ออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจอยู่ที่ 30.6 ล้านเหรียญ จาก 3,870 โรงฉายทั่วอเมริกา คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงเกือบ ๆ 8,000 เหรียญ โดยหนังขึ้นแท่นเป็นหนังแอนิเมชั่นที่เปิดตัวได้ดีที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ในรอบปีนี้ เป็นรองแค่ The Super Mario Bros. Movie (146 ล้านเหรียญ) กับ Spider-Man: Across The Spider-Verse (120 ล้านเหรียญ)

โดยตัวเลขเปิดตัวในภาคนี้ถือว่าทำออกมาใกล้เคียงกับภาคแรกที่เคยไว้ที่ 46.5 ล้านเหรียญ จากการออกฉายช่วงเวลาเดียวกันนี้เมื่อปี 2016 ก่อนจะฟันรายได้ในอเมริกาได้สูงถึง 153 ล้านเหรียญ และเก็บเงินทั่วโลกไปได้กว่า 343 ล้านเหรียญ โดยที่หนังภาคที่ 2 อย่าง Trolls: World Tour ไม่มีสถิติรายได้บันทึกเอาไว้ เนื่องจากหนังออกฉายในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาดหนักในปี 2020 ทำให้หนังฉายทางสตรีมมิงและเข้าฉายตามโรงหนังแค่บางประเทศ

เปิดตัวตามมาห่าง ๆ ในอันดับที่ 3 ก็คือ "Thanksgiving" หนังระทึกขวัญเลือดสาดเรื่องล่าสุดประจำช่วงเทศกาลปลายปีนี้ ทำเงินเปิดตัว 3 วันแรกได้น่าชื่นใจที่ 10.2 ล้านเหรียญ จาก 3,204 โรงฉาย ถือว่าเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับที่หลายสำนักคาดเอาไว้ นี่คือผลงานใหม่ของผู้กำกับ "อีไล ร็อธ" ที่เป็นหนังทางเลือกในช่วงเทศกาลวันหยุดที่กำลังจะมาถึง โดยหนังเรื่องยังได้กระแสตอบรับค่อนข้างดี ด้วยคะแนนวิจารณ์สูงถึง 83% บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes และยังใช้ทุนสร้างแค่เพียง 15 ล้านเหรียญเท่านั้น

ส่วนทางด้าน "The Marvels" ก็เหมือนจะเจ็บหนักเอาการ เพราะสัปดาห์นี้ทำรายได้เพิ่มไปอีกแค่ 10.2 ล้านเหรียญ ที่ต้องมาลุ้นชิงชัยว่าจะหล่นไปอยู่อันดับที่ 3 หรือที่ 4 เพราะรายได้เสมอกับเรื่องข้างบน แต่ตัวเลขนี้เป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะหนังได้ครองสถิติใหม่ในฐานะหนังมาร์เวลที่ทำรายได้ตุ้บแรงที่สุดของจักรวาล โดยลดลงไปกว่า -78% โค่นสถิติเดิมของ Ant-Man and the Wasp: Quantumania ที่เคยตุ้บลงในวีคที่ 2 ไปที่ -70% เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

นั่นทำให้สถานการณ์ของมาร์เวลและดิสนีย์ค่อนข้างระส่ำแล้ว โดยหลังจากเข้าฉายไป 10 วันแรก หนังเพิ่งจะทำเงินไปได้เพียง 65 ล้านเหรียญ แม้ว่ารายได้จากตลาดต่างประเทศได้ทะลุร้อยล้านเหรียญไปแล้ว แต่ก็น่าเป็นห่วงว่านี่อาจจะกลายเป็นหนังตราบาปประจำจักรวาลหนังมาร์เวลที่มีสิทธิ์เป็นหนังที่รายได้รวมได้น้อยที่สุดเป็นประวัติการณ์ แต่คงจะต้องมาเอาใจช่วยลุ้นกันยาว ๆ ต่อไป

เปิดตัวอีกเรื่องในสัปดาห์นี้ก็คือ "Next Goal Wins" หนังตลกกีฬาเรื่องล่าสุดของผู้กำกับ "ไทก้า ไวทีที" ที่ถือว่าทำผลลัพธ์เปิดตัวได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะทำไปได้แค่ 2.5 ล้านเหรียญ จาก 2,240 โรงฉาย หรือมีรายได้เฉลี่ยต่อโรงแค่เพียงพันเหรียญนิด ๆ เท่านั้น หนังไม่ค่อยเป็นที่ต้อนรับของนักวิจารณ์เท่าไหร่ เห็นจากคะแนนเฉลี่ยเพียง 41% บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes แม้จะมีดาราตัวท็อปและได้แรงบันดาลใจสร้างมาจากเรื่องจริง แต่ก็ไม่อาจจะเชิญชวนผู้ชมมาให้อุดหนุนได้นัก

ส่วนโปรแกรมหนังเข้าฉายแบบจำกัดโรงเรื่องอื่น ๆ ในสัปดาห์นี้ มีหลายเรื่องที่เจิดจรัส ไม่ว่าจะเป็น "Saltburn" หนังระทึกขวัญไซไคขวัญใจนักวิจารณ์ เปิดตัวแค่เพียง 7 โรงฉาย ทำเงินไปได้สวยที่ 315,000 เหรียญ ขณะที่ "Dream Scenario" ก็ยังไปได้สวยในวีคที่ 2 ทำเงินไปอีก 275,000 เหรียญ โดยมีการเพิ่มโรงฉายขึ้นมาเป็น 25 แห่ง ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นมา +25% อย่างน่าพอใจ และ "Fallen Leaves" ดรามาคำวิจารณ์ดีจากฟินแลนด์ ออกฉายเพียง 2 โรง ทำเงินไปได้ดีที่ 51,000 เหรียญ

สำหรับสัปดาห์ที่จะถึงนี้ เป็นช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าทางฝั่งอเมริกา ทำให้หนังจะเริ่มเข้าฉายกันตั้งแต่วันพุธ ก็มีพร้อมกับคิวหนังใหม่ใหญ่ ๆ 2 เรื่อง 2 แนว นั่นก็คือ "Wish" แอนิเมชั่นแฟนตาซีเรื่องใหม่จากดิสนีย์ ที่หวังจะร่ายพรมหัศจรรย์ให้กอบกู้สถานการณ์บนบ็อกซ์อออฟฟิศใหจงได้ กับ "Napoleon" หนังดรามาจัดจ้านอิงประวัติศาสตร์ โดยฝีมือของ ริดลีย์ สก็อต ที่จะมาเปิดตัวฉายประชันกัน และยังมี Saltburn ที่จะเพิ่งโรงฉายวงกว้างร่วมด้วย

 Source: TheNumbers

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

-------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa