รีเซต

[US Boxoffice] กลับมา..เฮี้ยนจัด! “Insidious: The Red Door” หลอนโค่นบัลลังก์อินดี้

[US Boxoffice] กลับมา..เฮี้ยนจัด! “Insidious: The Red Door” หลอนโค่นบัลลังก์อินดี้
Jeaneration
10 กรกฎาคม 2566 ( 08:00 )
128

Box Office Insidious: The Red Door

บ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกา รายงานอันดับหนังทำเงินประจำสุดสัปดาห์วันที่ 7-9 กรกฎาคม 2023 - สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาต้องทำให้เหล่าเซียนอ้าปากค้างให้กับความหลอนแรงและการกลับมาของเฟรนไชสืหนังสยองขวัญสุดเฮี้ยนที่การันตีได้ว่า...ยังไม่หมดแรงไปง่าย ๆ เพราะนี่คือ “Insidious: The Red Door” ภาคที่ 5 ของหนังตระกูลวิญญาณตามติด ที่กลายเป็นว่าสามารถทำเงินรายได้เปิดตัวได้แรงกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ในระดับที่ปังไม่เบา และเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของ โซนี่ พิคเจอร์ส ที่ซัมเมอร์ปีนี้มีแต่หนังทำเงินได้อย่างต่อเนื่อง

Insidious: The Red Door สามารถเปิดตัวด้วยรายได้ 32.65 ล้านเหรียญ จาก 3,188 โรงฉายทั่วอเมริกา หรือคิดเป็นรายได้เฉลี่ยที่สูงแตะหลักหมื่นเหรียญพอดี แรงเฮี้ยนเพียงพอที่จะขึ้นเป็นแชมป์บ็อกซ์ออฟฟิศเรื่องใหม่ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แม้ว่าเทียบจากสถิติจากหนังชุดนี้แล้วนั้น ก็ถือว่าภาคที่ 5 ก็ยังทำได้ตามมาตรฐานที่เคยสร้างเอาไว้ ถือว่าเปิดตัวแรงเป็นอันดับที่ 2 ของเฟรนไชส์ ตามหลังแค่ Insidious Chapter 2 ที่ทำไว้ที่ 40.2 ล้านเหรียญ เมื่อสิบปีก่อนเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์ต่างมองว่า Insidious 5 น่าจะเปิดตัวได้ใช้ได้ แค่อาจจะไม่ถึงขั้นขึ้นบัลลังก์แชมป์ เป็นได้แค่เพียงรองแชมป์ แต่เมื่อถึงวันฉายจริง ๆ หนังกลับทำเงินวันศุกร์ได้อย่างดีกว่าที่คาดเอาไว้ โดยเบื้องต้นไม่มีเซียนคนไหนคาดคิดว่าหนังจะทำเงินแตะหลัก 30 ล้านเหรียญ และหลาย ๆ ฝ่ายเชื่อว่าเฟรนไชส์หนังชุดนี้เริ่มเลือนหายไปตามกาลเวลาแล้ว อีกทั้งคำวิจารณ์ของหนังก็ไม่ดีเท่าไหร่ด้วย แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะคิดผิดไปนิด หนังเรื่องนี้ใช้ทุนสร้างแค่เพียง 16 ล้านเหรียญเท่านั้น คือแค่เปิดตัวมาก็เป็นกำไรไปแล้ว

หล่นไปเป็นรองแชมป์แทนก็คือ “Indiana Jones and the Dial of Destiny” หนังภาคที่ 5 อีกเรื่องบนบ็อกซ์ออฟฟิศช่วงนี้ หลังจากที่เปิดตัวไปได้ค่อนข้างพลาดเป้าไปหน่อย สัปดาห์นี้ก็ทำเงินลดลงไปอีก -56% ได้ไปเพิ่ม 26.5 ล้านเหรียญ นับว่าเริ่มส่งสัญญาณที่ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ออกมาแล้ว เพราะอย่าลืมว่าหนังใช้ทุนสร้างไปกว่า 300 ล้านเหรียญ แต่ตอนนี้เพิ่งจะฟันรายได้ทั่วโลกไปได้แค่เฉียด ๆ 250 ล้านเหรียญเท่านั้นเอง

หลากสำนักได้ทำการวิเคราะห์ตัวเลขรายได้หนังของฮอลลิวูดในช่วงครึ่งปีแรกกันออกมาแล้ว แม้ว่าดิสนีย์จะยังยืนหนึ่งในฐานะสตูดิโอที่ทำเงินได้มากที่สุดในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา แต่พวกเขาก็มีหนังที่ทำเงินได้ต่ำกว่าเป้าหมายติดต่อกันหลายเรื่องในช่วงหลัง ๆ รวมทั้งภาคล่าสุดของอินดี้เรื่องนี้ด้วย ผิดต่างจากโซนี่ ที่ช่วงซัมเมอร์นี้ค่อนข้างมีสถานการณ์ที่สดใสกว่า และยิ่งตอกย้ำด้วยความสำเร็จของวิญญาณตามติดภาคใหม่

อันดับที่ 3 ในสัปดาห์นี้ตกเป็นของในประเทศของอเมริกา “Sound of Freedom” หนังดราม่าสอดแทรกศรัทธา ว่าด้วยเรื่องจริงของเจ้าหน้าที่รัฐฯ ที่ลาออกมาเป็นตัวตั้งตัวตีในการช่วยเหลือเด็กที่เป็นเหยื่ออาชญากรรมทางเพศ หนังเปิดตัวเรียกแขกเป็นโปรแกรมหนังช่วงวันชาติอเมริกา ตั้งแต่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา และหนังก็ทำเงินได้ดีมาตลอด โดยทำเงินไป 18.2 ล้านเหรียญในช่วง 3 วันที่ผ่านมา และเมื่อรวมรายได้ตั้งแต่วันอังคารนั้น หนังกวาดไปได้งดงามถึง 40 ล้านเหรียญแล้ว ซึ่งดูทรงน่าจะเจริญรอยตามแบบที่ Jesus Revolution เคยทำไว้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ส่วนหนังใหม่อีกเรื่องที่เปิดตัวสัปดาห์นี้ ก็คือ “Joy Ride” หนังตลกของแก๊งเจ๊เฟียสกี ที่ค่อนข้างไม่เจ๋งเท่าไหร่ในอเมริกา เพราะเปิดตัวได้แค่ในอันดับที่ 6 ของตาราง กับรายได้ 5.85 ล้านเหรียญ จาก 2,820 โรงฉายทั่วประเทศ หรือคิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อแค่เพียง 2 พันเหรียญเท่านั้นเอง นับว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าที่มีการวิเคราะห์กันเอาไว้ ตัวหนังค่อนข้างประทับใจนักวิจารณ์ไม่น้อย แต่กลับสร้างความคิดเห็นที่เสียงแตกในหมู่ผู้ชม ซึ่งเห็นได้จากดราม่าประเด็นต่าง ๆ ที่หนังเรื่องนี้โดนตำหนิในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา

“Elemental” ของพิกซาร์ ที่ดูทรงเหมือนจะสามารถยืนโรงฉายได้ในระยะยาวอยู่ไม่น้อย สัปดาห์นี้ทำเงินไปอีก 9.6 ล้านเหรียญ ลดลงไปแค่ -21% เท่านั้น รายได้ในบ้านทะลุหลักร้อยล้านได้สำเร็จแล้ว แต่ยังไม่สามารถดีใจได้เต็มอก เพราะเรื่องนี้ใช้ทุนสร้างไปถึง 200 ล้านเหรียญทีเดียว ทางด้านโซนี่ยังยิ้มได้เพราะ “Spider-Man: Across the Spider-Verse” กวาดเงินให้ได้เรื่อย ๆ สัปดาห์นี้ได้ไปอีก 8 ล้านเหรียญ ลดลงไปเพียง -33% เท่านั้น โดยที่ยอดในอเมริกาเฉียดแตะ 360 ล้านเหรียญเข้าไปแล้ว ส่วนรายได้รวมทั่วโลกก็พุ่งทะยานไปสู่หลัก 650 ล้านเหรียญ

และสำหรับสัปดาห์ถัดไปก็ต้องหลีกทางให้พ่อ! ทอม ครูซ กลับมาอีกครั้งในหนังเฟรนไชส์คู่บุญของเขาเอง และเขายังคงเสี่ยงตายเล่นฉากสตันท์เองเหมือนเคยใน “Mission: Impossible Dead Reckoning Part One” ที่จะเป็นโปรแกรมหนังบิ๊กบ็อกซ์บัสเตอร์เพียงเรื่องเดียวที่จะเปิดตัวฉาย โดยฉายเรียกเงินตั้งแต่วันพุธ ที่คาดว่าน่าจะเปิดตัว 5 วันด้วยรายได้ทะลุร้อยล้านได้ไม่ยาก

Source: TheNumbers

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

----------------------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<