รีเซต

[US Boxoffice] ชาวพาเน็มยังแกร่งต่อ! จักรพรรดิ หรือ คำอธิษฐาน ก็มิอาจต้านทาน

[US Boxoffice] ชาวพาเน็มยังแกร่งต่อ! จักรพรรดิ หรือ คำอธิษฐาน ก็มิอาจต้านทาน
Jeaneration
27 พฤศจิกายน 2566 ( 08:00 )
113

Box Office The Ballad of Songbirds and Snakes

บ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกา รายงานอันดับหนังทำเงินประจำสุดสัปดาห์วันที่ 24-26 พฤศจิกายน 2023 - สัปดาห์ที่ผ่านมาตรงกับวันเทศกาลวันหยุดที่สำคัญของชาวคริสต์ นั่นก็คือวันขอบคุณพระเจ้า ที่ผลลัพธ์ออกมากลายเป็นวีคขอบคุณพระเจ้าที่กระแสหนังฮอลลิวูดค่อนข้างเบาบางไปสักหน่อย เพราะกลุ่มหนังใหม่ไม่สามารถฝ่าด่านขึ้นมาเป็นแชมป์ใหม่ได้ ปล่อยให้บัลลังก์ยังคงเป็นของแชมป์เก่าที่ยังเรืองแรงได้ต่อไป แม้ว่าจะทำเม็ดเงินได้ยังไม่เป็นกอบเป็นกำอย่างที่หวังก็ตาม

แชมป์ยังคงตกเป็นของ "The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes" หนังภาคต้นของตระกูลเกมล่าสุด ที่ทำรายได้ไปอีก 28.82 ล้านเหรียญ ลดลงมาแค่เพียง -35% หรือว่าหนังฟันรายได้ 5 วันตั้งแต่วันพุธไปได้ที่ 42 ล้านเหรียญ อัดฉีดทำให้ยอดรวมของหนังตอนนี้ทะยานเข้าใกล้เข้าสู่หลักร้อยล้านเหรียญในอเมริกา และเกือบ ๆ จะแตะหลัก 200 ล้านเหรียญได้ทั่วโลกแล้ว

The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes ถึงแม้ว่าจะออกสตาร์ทได้น้อยที่สุดกว่าบรรดาหนังเรื่องอื่น ๆ ในแฟรนไชส์นี้ แต่ก็ยังสามารถเรียกคนดูกลับมาสู่พาเน็มได้อีกครั้ง โดยหนังใช้ทุนสร้างไปร้อยล้านเหรียญ ที่หลังจากนี้ก็น่าจะอุ่นใจขึ้นมาระดับหนึ่งเพราะว่ากำลังผ่านตัวเลขคุ้มทุนสร้างไปได้แล้ว แต่เป้าหมายของหนังก็หวังจะทำเงินในประเทศในระดับมากกว่า 200 ล้านเหรียญ เพื่อจะต่อยอดสร้างภาคต่อและภาคแยกในอนาคตได้อีกต่อไป

รองแชมป์สัปดาห์นี้ตกเป็นของ "Napolean" หนังอิงประวัติศาสตร์จักรพรรดิผู้เลื่องชื่อ ฝีมือการกำกับของ "ริดลีย์ สก็อต" ที่ถือว่าทำเงินได้น่าพอใจในระดับชวนประหลาดใจอยู่เล็กน้อย กับ 20.4 ล้านเหรียญ จาก 3,500 โรงฉายทั่วอเมริกา หรือคิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงที่ประมาณ 5,800 เหรียญ หนังเปิดตัวมาตั้งแต่วันพุธ ทำรายได้ 5 วันแรกไปน่าประทับใจที่ 32.5 ล้านเหรียญ นับว่าเป็นตัวเลขที่มากกว่าที่สตูดิโอและนักวิเคราะห์คาดการณ์กันเอาไว้

Napolean เป็นหนังที่มีความยาวกว่า 2 ชั่วโมง 40 นาที ที่ถือว่าเป็นหนังมีเวลาในหนังค่อนข้างยาวนานอีกเรื่องของปีนี้ โดยหนังใช้ทุนสร้างไปถึง 200 ล้านเหรียญ การออกสตาร์ทด้วยตัวเลขในระดับนี้อาจจะยังไม่ใช่ที่ประทับใจของผู้สร้างเท่าไหร่นัก แต่ก็หวังว่าหนังจะมีโอกาสได้ยืนโรงฉายในระยะยาว ด้วยการอาศัยแรงผลักดันจากเวทีรางวัลต่าง ๆ ที่จะเริ่มประกาศผลในเร็ว ๆ นี้ ขณะที่รายได้รวมทั่้วโลกของหนังก็ออกสตาร์ทไปแล้วเกือบ 80 ล้านเหรียญ

วอลต์ ดิสนีย์ ก็ยังคงเผชิญหน้ากับความล้มเหลวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดก็ต้องมากุมขมับให้กับ "Wish" หนังแอนิเมชั่นที่ฝากความหวังเอาไว้ในฐานะเป็นโปรแกรมฉลอง 100 ปีของสตูดิโอ แต่กลายการฉลองศตวรรษที่ค่อนข้างอึมครึมไม่น้อย เพราะหนังเปิดตัวไปได้ที่ 19.5 ล้านเหรียญ (5 วันแรก 31.7 ล้านเหรียญ) จาก 3,900 โรงฉายทั่วประเทศ คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงที่ 5,000 เหรียญโดยประมาณ

นี่กลายเป็นอีกหนึ่งผลงานแอนิเมชันจากดิสนีย์ที่สร้างความน่าผิดหวังอีกครั้ง ตามรอย Strange World เมื่อปีที่แล้ว ที่เคยเปิดตัวในช่วงเวลาเดียวกันในปี 2022 กับรายได้เพียง 12 ล้านเหรียญ และทำให้สตูดิโอต้องเผชิญหน้ากับการขาดทุนอย่างหนัก ดูเหมือนว่า Wish น่าจะเจริญรอยตามเช่นเดียวกัน ผลงานที่มี "ฝน วีระสุนทร" ผู้กำกับหญิงชาวไทยร่วมสร้างด้วย ยังทำผลลัพธ์ในแง่คำวิจารณ์ค่อนข้างไม่ค่อยจะสู้ดีด้วยเช่นเดียวกัน

Wish เป็นหนังที่ใช้ทุนสร้างระดับ 200 ล้านเหรียญเลยทีเดียว แต่ล่าสุดเพิ่งจะเปิดตัวทั่วโลกได้อย่างน่าผิดหวังเช่นเดียวกับ กับรายได้ 5 วันที่ไม่ถึง 50 ล้านเหรียญ นับว่าเป็นหนังที่ค่อนข้างหักปากกาเซียนสักหน่อย เพราะนักวิเคราะห์บางสำนักเชื่อว่าหนังจะสามารถซื้อใจคนดูกลุ่มครอบครัว และน่าจะทำเงินได้ในระดับ 30 ล้านเหรียญ พร้อมกับขึ้นเป็นแชมป์ใหม่ในสัปดาห์วันขอบคุณพระเจ้า แต่ผลลัพธ์ในท้ายที่สุดกลับออกมาคนละขั้ว

ขณะที่รายได้ของโปรแกรมหนังเรื่องอื่น ๆ ในช่วงสัปดาห์วันขอบคุณพระเจ้าก็ยังมี "Trolls Band Together" ที่ทำเงินไปอีก 17.52 ล้านเหรียญ ลดลงไป -42% ดร็อปไประดับหนึ่งเพราะเป็นหนังที่มีกลุ่มผู้ชมกลุ่มเดียวกับเรื่อง Wish นั่นเอง โดยที่ยอดรวมในบ้านฟันไปแล้ว 64.4 ล้านเหรียญ ตามมาด้วย "Thanksgiving" ที่เข้ากับเทศกาลพอดี เพียงแต่เป็นแนวเขย่าขวัญ ทำเงินไปอีก 7.15 ล้านเหรียญ ลดลงไปแค่ -31% กับรายได้รวมที่ 24 ล้านเหรียญ

"The Marvels" ทำเงินไปอีก 6.4 ล้านเหรียญ ลดลงไป -37% วีคนี้ถูกลดรอบและโรงฉายไปพอประมาณ ซึ่งยอดรวมในอเมริกายังขยับไปช้า ๆ อยู่ที่ 76.8 ล้านเหรียญ เสี่ยงเป็นหนังมาร์เวลเรื่องแรกที่จะทำเงินแตะไม่ถึงหลักร้อยล้านเหรียญอยู่ ขณะที่ "The Holdovers" เพิ่มโรงฉายขึ้นมาอีกหน่อย ทำให้มีรายได้ขยับเพิ่มขึ้นมา +2% กับ 2.74 ล้านเหรียญ ยอดรวมที่ 12.8 ล้านเหรียญ นี่ถือเป็นหนังนอกกระแสที่ค่อนข้างมัดใจคนดูในช่วงนี้

ทางด้าน "Dream Scenario" หนังตลกร้ายของ นิโคลัส เคจ วีคนี้มีการเพิ่งโรงฉายขึ้นมาเป็น 124 แห่ง ซึ่งยังจัดว่าเป็นการฉายแบบจำกัดโรงฉาย แต่ก็ทำรายได้เพิ่มขึ้นมาอีก +149% ที่ 615,000 เหรียญ ยังค่อนข้างเป็นหนังที่ทำเงินร้อนแรงในกลุ่มการฉายแบบวงแคบ ๆ โดยที่รายได้รวมตอนนี้ก็ขยับแตะผ่านหลักล้านเหรียญไปเรียบร้อยแล้ว

ส่วนสัปดาห์ถัดไปย่างเข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2023 ก็มาพร้อมกับโปรแกรมหนังแบบจุก ๆ แต่อาจจะไม่ได้ฟอร์มใหญ่สักเท่าไหร่ นำทีมมาด้วยหนังคอนเสิร์ตของดีว่าตัวแม่ บียอนเซ่ ใน "Renaissance: A Film by Beyonce" ที่จะได้ฤกษ์กระหึ่มโรง ตามมาด้วยหนังแอคชันเขย่าขวัญเอี่ยวกับเทศกาล "Silent Night" พร้อมทั้งหนังก็อดซิลลาคำวิจารณ์ดีจากญี่ปั่น "Godzilla Minus One" และมีหนังลึกลับสืบสวนนอกกระแส "The Shift" กับหนังบอลลิวูดฟอร์มดี "Animal" ที่ว่าจะร่วมวงฉายแบบวงกว้างด้วย

 Source: TheNumbers

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

-------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa