รีเซต

[US Boxoffice] ดี๊ด๊า..ขอฉลองพันล้าน! "Barbie" ยังครองแชมป์ 3 สัปดาห์ซ้อน

[US Boxoffice] ดี๊ด๊า..ขอฉลองพันล้าน! "Barbie" ยังครองแชมป์ 3 สัปดาห์ซ้อน
Jeaneration
7 สิงหาคม 2566 ( 08:00 )
180

Box Office Barbie

บ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกา รายงานอันดับหนังทำเงินประจำสุดสัปดาห์วันที่ 4-6 สิงหาคม 2023 - นับว่าเป็นสุดสัปดาห์ที่โรงหนังยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง เพราะว่า 4 อันดับแรกของตารางหนังทำเงินนั้น ถือว่าออกตัวได้ร้อนแรงอยู่ แต่ว่าแชมป์หนังในอเมริกาก็ยังคงเป็นของ "Barbie" คนสวยคนเดิม ที่ครองแชมป์ต่อเนื่องกัน 3 สัปดาห์ติดแล้ว โดยทำเงินเพิ่มไปอีก 53 ล้านเหรียญ ถือว่าลดลงไปเพียง -43% เท่านั้น ซึ่งหนังยังถือว่าทำรายได้เฉลี่ยต่อโรงได้สูงระดับหมื่นเหรียญอย่างต่อเนื่อง

สำหรับรายได้รวมเฉพาะในอเมริกาของ Barbie ฟันไปได้กว่า 459 ล้านเหรียญ ขณะที่รายรับทั่วโลกเพิ่งจะแตะขึ้นสู่ทำเนียบหนังพันล้านเหรียญได้อย่างเป็นทางการ เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตามเวลาในท้องถิ่น และนับว่า Barbie กลายเป็นหนังพันล้านเรื่องที่ 2 ของปี 2023 ตามหลัง "The Super Mario Bros." และเชื่อว่าหนังจะทำเงินแซงหน้าได้อย่างแน่นอน

ขณะที่ "Oppenheimer" ของ "คริสโตเฟอร์ โนแลน" ขยับลงไปอยู่ในอันดับที่ 3 แต่รายได้ก็ยังปังต่อเนื่อง เพราะทำเงินไปอีก 28.7 ล้านเหรียญ ลดลงไปแค่เพียง -39% โดยยอดรวมเฉพาะในอเมริกากวาดไปแล้วที่ 228 ล้านเหรียญ และมีรายได้ทั่วโลกพุ่งแตะไปอีก 552 ล้านเหรียญ กลายเป็นหนังของโนแลนเรื่องที่ 5 ที่ทำเงินผ่านหลักห้าร้อยล้าน แม้ว่าสัปดาห์นี้หนังจะต้องแบ่งรอบฉายโรงไอแม็กซ์ให้กับเรื่องอื่นแล้วก็ตาม

ทางด้าน 2 หนังใหม่ที่เปิดตัวเข้ามาในสัปดาห์นี้ ก็ถือว่ายังฟอร์มดีเช่นกัน "Meg 2: The Trench" เข้ามาเป็นรองแชมป์ กับรายได้ 29.8 ล้านเหรียญ จาก 3,503 โรงฉายทั่วอเมริกา หรือคิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงที่ 8 พันกว่าเหรียญ แม้ว่าจะเป็นรายได้ที่เปิดได้น้อยกว่าภาคแรกที่เคยทำเอาไว้ที่ 45 ล้านเหรียญ ในปี 2018 ก็ตามที ซึ่งภาคนี้ใช้ทุนสร้างสูงถึง 130 ล้านเหรียญ ดังนั้นดูเหมือนว่าหนังจะหวังรายได้จากต่างประเทศมากกว่า โดยเฉพาะตลาดหนังเมืองจีน ซึ่งหนังก็ออกสตาร์ททั่วโลกได้สวยไปกว่า 140 ล้านเหรียญ

"Teenage Mutant Ninja Turtles: Mutant Mayhem" เปิดตัวได้ในอันดับที่ 4 กับรายได้ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะทำเงิน 3 วันปกติไปได้ที่ 28 ล้านเหรียญ จาก 3,513 โรงฉาย หรือคิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงที่้เกือบ ๆ 8 พันเหรียญ เมื่อรวมรายได้จากการออกฉาย 5 วันแรก นับตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา หนังก็กวาดเงินไปได้แล้วกว่า 43 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 70 ล้านเหรียญที่ใช้ในการลงทุนทำหนังเรื่องนี้

พาราเมาท์ พิคเจอร์ส ค่อนข้างมั่นใจกลับการคัมแบ็กของเต่านินจาในครั้งนี้ ด้วยการประกาศสร้างภาคต่อและภาคขยายในหลาย ๆ แพลตฟอร์มเตรียมเอาไว้แล้ว เพราะนี่ถือว่าเป็นหนึ่งในหนังที่ได้รับคำวิจารณ์ที่ค่อนข้างดี ได้คะแนนเฉลี่บสูงถึง 96% บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes และยังได้เกรด A จากผู้ชมหน้าโรงในการสำรวจของ CinemaScore

ในขณะที่อันดับที่ 5 เป็น "Haunted Mansion" ที่ทำรายได้ไปอีก 9 ล้านเหรียญ ถือว่าลดลงค่อนข้างมากถึง -63% นับว่าสถานการณ์ที่หนักหน่วงอีกครั้งของดิสนีย์ ที่หนังซัมเมอร์ของพวกเขาในปีนี้ไม่ค่อยประสบความสำเร็จทางด้านรายได้มากนัก โดยล่าสุดหนังจากเครื่องเล่นสวนสนุกเรื่องนี้ เพิ่งทำรายได้ในบ้านไปที่ 42 ล้านเหรียญ กับยอดรวมทั่วโลกเฉียด ๆ ที่ 60 ล้านเหรียญ

"Sound of Freedom" กับ "Mission: Impossible - Dead Reckoning Part One" ตามมาติด ๆ ทำเงินไปอีก 7 ล้านเหรียญ กับ 6.4 ล้านเหรียญ ตามลำดับ โดยขณะนี้หนังดราม่าสุดเซอร์ไพรส์ของปีนี้ทำรายได้ในบ้านไปได้มากกว่า 163 ล้านเหรียญ ถือว่าแซงหน้ายอดรวมของหนังแอคชั่นของ "ทอม ครูซ" ที่ตามมาไม่ไกลที่ 151 ล้านเหรียญ

และหนังสยองขวัญอินดี้ที่กระแสปังสุด ๆ ในปีนี้ "Talk to Me" จากค่าย A24 เกาะอยู่ในอันดับที่ 8 กับรายได้เพิ่มอีก 6.2 ล้านเหรียญ โดยหนังทำเงิน 10 วันแรกไปได้แล้ว 22.1 ล้านเหรียญ หลังจากนี้จะฟันได้กำไร เพราะหนังใช้ทุนสร้างแค่เพียง 4 ล้านเหรียญเท่านั้นเอง

ส่วนสัปดาห์ที่จะถึงนั้น ดูเหมือนจะมีเพียง "The Last Voyage of the Demeter" หนังเขย่าขวัญแดรกคูลา เป็นเพียงเรื่องเดียวที่จะออกฉายวงกว้าง เนื่องจากหนังอีกเรื่องเลื่อนฉายออกไปกะทันหัน เพราะประเด็นการประท้วงของวงการฮอลลิวูดในตอนนี้ โดยที่จะมีหนังอินดี้ "The Pod Generation" กับ "Medusa Deluxe" จากค่าย A24 เข้าฉายแป็นโปรแกรมทางเลือกแบบจำกัดโรง

Source: TheNumbers

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

----------------------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<