รีเซต

[US Boxoffice] ปังทั้งคู่! “Barbie” กอดคอ “Oppenheimer” ถล่มรายได้ในอเมริกา

[US Boxoffice] ปังทั้งคู่! “Barbie” กอดคอ “Oppenheimer” ถล่มรายได้ในอเมริกา
Jeaneration
24 กรกฎาคม 2566 ( 08:00 )
574

Box Office Barbie

บ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกา รายงานอันดับหนังทำเงินประจำสุดสัปดาห์วันที่ 21-23 กรกฎาคม 2023 - นี่คือสุดสัปดาห์ที่ทั่วโลกต่างเฝ้ารอคอย ทั้งคาดหวังและตื่นเต้นกับผลลัพธ์ที่จะออกมา ช่างเป็นสัปดาห์ที่งดงามแห่งวงการภาพยนตร์และโรงภาพยนตร์โดยแท้ เพราะหนังฟอร์มดีทั้ง 2 เรื่องที่ลงล็อกวันฉายเอาไว้ในวันเดียวกันได้สร้างปรากฏการณ์ทางด้านรายได้ไปทั่วโลก พร้อมกับกระแสต่าง ๆ นานาที่ให้ชาวโลกออกมาดูหนังในโรงอีกครั้ง และแชมป์หนังสัปดาห์นี้ก็ตกเป็นของ “Barbie” สาวน้อยในโลกที่มีสีชมพูเต็มไปหมด

ตามรายงานระบุว่า Barbie สามารถทำรายได้เปิดตัว 3 วันแรกในอเมริกาได้สูงถึง 155 ล้านเหรียญ จาก 4,243 โรงฉายทั่วประเทศ หรือคิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงที่สูงกว่า 36,000 เหรียญเลยทีเดียว นับเป็นการสร้างสถิติใหม่ให้กับบ็อกซ์ออฟฟิศอีกครั้งในรอบกว่า 4 ปี นับตั้งแต่ยุคก่อนที่โควิด-19 จะแพร่ระบาด โดยหนังขึ้นแท่นเป็นหนังเปิดตัวด้วยรายได้ที่สูงสุดในปี 2023 เรื่องใหม่ไปในทันที และทำรายได้เปิดตัวทั่วโลกไปได้สวยถึง 337 ล้านเหรียญ แค่ออกสตาร์ทก็ทำเงินทะลุทุนสร้าง 145 ล้านไปแล้ว

จากการสำรวจข้อมูลพบว่ากว่าร้อยละ 65 ของผู้ชม Barbie เป็นกลุ่มคนดูผู้หญิงเป็นหลัก ซึ่งตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่หนังวางเอาไว้อยู่แล้ว การที่หนังเนื้อหาผู้หญิงนำเรื่องนี้ขึ้นครองแชมป์ได้อย่างประสบความสำเร็จเช่นนี้ เป็นการตอบโจทย์ที่ดีงามของฮอลลิวูด ในการเปิดรับและยอมรับในผลงานของผู้หญิงในวงการมากยิ่งขึ้น และหนังเรื่องนี้ก็ได้คะแนนคำวิจารณ์ที่ดีงาม เฉลี่ยที่ 90% บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes และยังได้เกรด A มาจากผู้ชมจากการเปิดเผยของ CinemaScore

ถึงจะตามมาเป็นที่ 2 ก็ไม่ธรรมดา “Oppenheimer” ผลงานล่าสุดของผู้กำกับระดับตัวพ่อ “คริสโตเฟอร์ โนแลน” เปิดตัว 3 วันแรกกับวันแรกที่ไม่ธรรมดาที่ 80.5 ล้านเหรียญ จาก 3,610 โรงฉายทั่วอเมริกา หรือคิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อที่ราว ๆ 22,000 เหรียญ ถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงกว่าที่สตูดิโอและนักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้ด้วย แม้ว่าหนังจะติดเรต R และต้องจำกัดอายุผู้ชมในการตีตั๋วเข้าชมด้วย

Oppenheimer ถือว่าเป็นหนังเรื่องแรกที่โนแลนตีจากค่ายหนังเดิม อย่าง วอร์เนอร์ บราเธอร์ส (ซึ่งก็คือเจ้าของหนัง Barbie นั่นเอง) มาจับมือกับ ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส แทน กับหนังทุนสร้างระดับร้อยล้านเหรียญ ที่ตอนนี้กอบโกยเข้ากระเป๋าไปแล้วไปแล้วถึง 174 ล้านเหรียญจากทั่วโลก ถึงจะเป็นความยาว 3 ชั่วโมงแต่ก็ไม่หวั่น แน่นอนว่ากลุ่มผู้ชมหลักของหนังเรื่องนี้ก็ตรงกันข้ามกับเรื่องข้างบน นั่นก็คือเป็นคนดูผู้ชายนั่นเอง

และปรากฏการณ์ Barbenheimer ที่เกิดขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ ก็ได้ทำการเขย่าผังบ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกาให้เต็มไปด้วยความรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น เพราะนี่นับว่าเป็นครั้งแรกรอบหลายปีที่มีเม็ดเงินมหาศาลหลั่งไหลเข้าโรงฉายมากมายเช่นนี้ ล่าสุดเท่าที่จำได้ก็น่าจะเป็นสมัย “Avengers: Endgame” เมื่อสัก 4-5 ปีที่แล้ว เพราะแค่หนังตัวท็อป 2 เรื่องแรกของตารางก็ฟันรายได้ให้เบาะ ๆ ไปมากกว่า 235 ล้านเหรียญแล้ว

ส่วนนี่ก็น่าจะหมายถึงสิ่งที่ “ทอม ครูซ” ไม่น่าจะปลื้มตามข่าวแน่ ๆ เพราะว่า “Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One” ก็หล่นลงมาจากแชมป์กับรายได้ที่ค่อนข้างแรงสักหน่อยที่ -64% ตกมาอยู่ที่ 4 เก็บเงินไปอีก 19.5 ล้านเหรียญ เพราะผลกระทบจากการมาของปรากฏการณ์ Barbenheimer นั่นเอง ทำให้รายได้ของหนังลดลงมาค่อนข้างน่าใจหาย กับรายได้รวมตอนนี้อยู่ที่ 118.7 เหรียญ โดยมีรายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ 273 ล้านเหรียญ

ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็คือการมาของ Oppenheimer เท่ากับต้องแย่งรอบและโรงฉายในระบบไอแม็กซ์ของหนังเรื่องนี้ไปด้วย ทำให้ Mission: Impossible 7 เรื่องนี้เหลือแค่รอบฉายปกติ ที่ราคาตั๋วหนังก็ถูกลงกว่าการฉายระบบพิเศษอื่น ๆ และเมื่อสังเกตบนตารางบ็อกซ์ออฟฟิศจะพบว่าหนังถูกลดโรงฉายหายไป 6 แห่ง ซึ่งนั่นก็คือโรงไอแม็กซ์ที่หายไปนั่นเอง และเป็นที่น่าช้ำใจไม่น้อยของหนังที่เพิ่งจะฉายเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 และต้องถูกลดโรงฉายไปเสียแล้ว

ขณะที่อันดับที่ 3 เป็นของหนังนอกกระแสที่ทำเงินถล่มทลายแบบเซอร์ไพรส์ในปีนี้ “Sound of Freedom” ที่ล่าสุดก็ยังทำเงินได้ดีต่อเนื่อง แบบไม่แคร์กระแส Barbenheimer สักนิด โดยทำเงินไปอีก 20.1 ล้านเหรียญ ลดลงไปเพียง -26% กับยอดรวมที่ทะลุร้อยล้านแล้วกว่า 124 ล้านเหรียญ กลายเป็นหนังทุนต่ำที่ประสบความสำเร็จแบบสุดปัง และขึ้นแท่นกลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดในอเมริกาอันดับที่ 14 ในปีนี้และยังคงไต่อันดับขึ้นมาเรื่อย ๆ

ส่วนสัปดาห์หน้าที่จะถึงนี้ก็ยังมีหนังใหม่จ่อคิวต่อ เป็นหนังสยองขวัญแฟนตาซีที่ปัดฝุ่นสร้างใหม่ของดิสนีย์ใน "Haunted Mansion" ตามมาด้วยหนังสุดสยองสายมูสายมนต์ดำของฮอลลิวูดที่กระแสค่อนข้างดีใน "Talk to Me" และยังเป็นคิวการฉายอย่างเป็นทางการของ "The First Slam Dunk" ในอเมริกาด้วย ต้องมาตามดูว่าจะมีเรื่องไหนท้าทาย Barbenheimer ได้บ้าง...

Source: TheNumbers

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

----------------------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<