[US Boxoffice] พบกับแก๊งพลาสสติกรุ่นปี 2024 "Mean Girls" แผลงฤทธิ์ผงาด
Box Office Mean Girls
บ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกา รายงานอันดับหนังทำเงินประจำสุดสัปดาห์วันที่ 12-14 มกราคม 2024 - ที่อเมริกาสัปดาห์นี้ตรงกับช่วงวันหยุดยาวแรกของปีกับวันหยุดรำลึกถึงมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ที่ถือว่ามาพร้อมกับก๊อกหนังใหม่หลาย ๆ เรื่อง และเป็นการออกสตาร์ทปีใหม่ได้อย่างเต็มแรง และเราก็ได้แชมป์หนังเรื่องใหม่และเรื่องแรกของปีนี้แล้ว นั่นก็คือ "Mean Girls" หนังตลกวัยรุ่นที่รีเมคมาจากฉบับปี 2004 และเวอร์ชั่นละครบอร์ดเวย์ ทำให้ในภาคนี้มันกลายเป็นหนังมิวสิคัลไปโดยปริยาย
Mean Girls 2024 ทำรายได้เปิดตัวได้อย่างพอใจที่ 28 ล้านเหรียญ จาก 3,791 โรงฉายทั่วอเมริกา หรือคิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อที่ราว ๆ 7,400 เหรียญ นับว่าเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับสตูดิโอและนักวิเคราะห์คาดการณ์กันเอาไว้ เวอร์ชันนี้ยังคงทีมผู้สร้างชุดเก่าที่คุ้นเคยกลับมา นั่นก็คือ "ทีนา เฟย์" ที่ยัมารับบทเดิมในหนังและเขียนบทหนังด้วยมือของเธอเองอีกครั้ง
แน่นอนว่านี่คือการปฏิรูปหนังออกมาเป็นฉบับใหม่ที่เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันยิ่งขึ้น ด้วยการคาดหวังว่าจะได้กลุ่มผู้ชมกลุ่มเจน Z มาดูเป็นหลัก พร้อมทั้งยังดึงดูดกลุ่มเจนอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ที่เคยทันดูหนังฉบับปี 2004 ให้กลับมาดูอีกครั้ง หนังใช้ทุนสร้างไปเพียง 36 ล้านเหรียญ ที่คาดว่าน่าจะได้ทุนคืนไม่ยาก เพราะหากรวมรายได้ไปถึงวันจันทร์ที่เป็นวันหยุดนั้น คาดว่าหนังจะทำเงิน 4 วันแรกไปที่ 32 ล้านเหรียญ
Mean Girls 2024 ถือว่าเป็นการกลับมาที่ค่อนข้างพึงพอใจอยู่ เพราะมีนักวิจารณ์ชื่นชอบหนังอยู่ที่ 70% บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ขณะที่ความคิดเห็นหน้าโรงหนังของผู้ชมจาก CinemaScore ก็ตัดให้เกรด B+ กับหนังเรื่องนี้ ทั้งที่บางเสียงจะบอกว่าจังหวะมิวสิคัลของหนังค่อนข้างประหลาดไปหน่อยก็ตาม แต่ก็ถือว่าหนังเปิดตัวได้ใกล้เคียงกับที่ Mean Girls ต้นฉบับเคยทำไว้ที่ 24 ล้านเหรียญ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว
รองแชมป์ก็เป็นหนังเข้าใหม่เช่นกัน "The Beekeeper" หนังแอคชันเด็ดหัวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของตัวพ่อ "เจสัน สเตแธม" ที่กลายเป็นหนังบู๊ที่มอบผลลัพธ์ได้ดีเกินคาด เพราะหนังออกสตาร์ทด้วยรายได้ 3 วันที่ 16.8 ล้านเหรียญ จาก 3,303 โรงฉายทั่วประเทศ หรือคิดเป็นรายได้เฉลี่ยโรงที่ 5,000 เหรียญ โดยคาดว่าหนังจะทำเงิน 4 วันแรกรวมวันหยุดยาวไปได้ที่ 19 ล้านเหรียญ
The Beekeeper กลายเป็นหนังที่นักวิจารณ์อ้าแขนรับมันอย่างประทับใจอยู่ เพราะได้คะแนนเฉลี่ยมีเสียงชื่นชอบถึง 68% และคนดูก็ชอบมันไม่เบากับการให้เกรด B+ แม้ว่าจะเป็นหนังบู๊ที่ไม่เกินการคาดเดา แต่ก็บันเทิงได้ดีตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งแน่นอนว่าหนังก็น่าจะขายตลาดต่างประเทศได้ดี เพราะเปิดตัวนอกอเมริกาได้แล้วที่ 20.4 ล้านเหรียญ ทำให้สัปดาห์แรกหนังออกตัวทั่วโลกไปได้เฉียด ๆ 40 ล้านเหรียญไปแล้ว
สัปดาห์นี้ยังมีหนึ่งหนังเข้าใหม่ แต่กลับทำรายได้น่าผิดหวัง นั่นก็คือ "The Book of Clarence" ที่ทำได้ดีที่สุดกับเปิดตัวอยู่ในอันดับที่ 10 ของตารางเท่านั้น กับรายได้เพียง 2.5 ล้านเหรียญ จาก 2,010 โรงฉายทั่วอเมริกา นี่คือหนังตลกย้อนยุคที่มีประเด็นเชื่อมโยงเกี่ยวกับความเชื่อ แต่หนังค่อนข้างขาดแคลนกระแสไปพอสมควร ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นจึงกลายเป็นว่าที่หนังคว่ำเรื่องแรกของปีนี้ไปเรียบร้อย ทั้งที่กระแสคำวิจารณ์ของหนังก็ไม่ได้แย่เลย
"Wonka" ลงจากบัลลังก์แชมป์อีกครั้ง แต่ก็ยังเก็บเงินไปอีก 8.3 ล้านเหรียญ ลดลงไปเพียง -40% โดยยอดรวมในบ้านขยับไปที่ 176 ล้านเหรียญ และรายได้รวมทั่วโลกก็ได้ฉลองผ่านหลัก 500 ล้านเหรียญไปได้อย่างงดงาม หนังรอมคอมขายดีเกินคาด "Anyone But You" ยังคงได้กระแสปากต่อปากที่ดีอยู่ ทำเงินไปอีก 6.9 ล้านเหรียญ ลดลงไปแค่ -29% เท่านั้น แม้ว่าจะเป็นหนังที่โดนวิจารณ์สับเละ แต่แอบฮิตได้ระยะยาวไม่เบา ล่าสุดก็ฟันรายได้ในอเมริกาไปแล้ว 55 ล้านเหรียญ
เช่นเดียวกับ "Migration" หนังแอนิเมชั่นจากอิลลูมิเนชัน ที่เกาะช่วงเทศกาลขายได้ยาว ๆ ทำเงินไปอีก 6.2 ล้านเหรียญ ลดลงไปเพียง -38% เห็นบินมาเงียบ ๆ แต่ก็ฟันเงินเพียบไป 85 ล้านเหรียญ มีลุ้นจะแตะร้อยล้านได้อยู่เหมือนกัน ทางด้าน "Aquaman and the Lost Kingdom" ก็ดร็อปลงมาอีกครึ่งหนึ่ง เก็บไปอีก 5.2 ล้านเหรียญ กับยอดรวมที่กระเตื้องไปที่ 108.2 ล้านเหรียญ และรายได้ทั่วโลกที่ยังต้องลุ้นว่าจะมีแรงไปถึง 400 ล้านเหรียญได้หรือไม่
"Night Swim" หมดแรงว่ายไปอย่างรวดเร็ว เพราะเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ก็ทำเงินลดลงไปถึง -60% กับ 4.6 ล้านเหรียญ ถือว่าเป็นไปตามปกติของเทรนด์หนังสยองขวัญ แต่เรื่องนี้ถือว่าไม่ได้สร้างปรากฏการณ์อะไรให้กับบ็อกซ์ออฟฟิศ เพราะยอดรวม 10 แรกก็ทำไปได้ที่ 19 ล้านเหรียญ ถือว่ายังธรรมดา ๆ และยังมีหนังอินเดียเปิดตัวรับปีใหม่ "Guntur Kaaram" หนังฟอร์มดีของซุปตาร์หนุ่ม "มาเฮช บาบู" เปิดตัวได้ 4.1 ล้านเหรียญ จาก 800 โรงฉาย ยังได้การต้อนรับจากแฟน ๆ ชาวอินเดียในอเมริกาเป็นอย่างดี
ส่วนกลุ่มหนังรางวัลที่ได้กระแสมาจากฤดูรางวัลเริ่มต้นก็มี "Oppenheimer" ที่กลับมาเพิ่มโรงฉายอีกครั้ง วีคนี้ทำเงินกระแสขึ้นเหมือนเข้าฉายใหม่แบบวงจำกัดอีกรอบ ได้ไป 327,000 เหรียญ ที่ช่วยกระตุ้นยอดรวมของหนังได้ดี ขณะที่ "Poor Things" หนังที่แย่งซีน "Barbie" บนเวทีลูกโลกทองคำ ทำเงินลดลงไปแค่ -8% กับอีก 1.8 ล้านเหรียญ และ "American Fiction" ที่ขยายโรงฉายวงกว้างขึ้นอย่างเป็นทางการเป็น 625 โรงฉาย ก็ทำเงินเพิ่ม +93% อีก 1.9 ล้านเหรียญ
ขณะที่ "The Color Purple" ที่แทบจะไม่มีกระแสรางวัลมาช่วยหนุนเลย อีกทั้งสัปดาห์นี้คาดหวังว่าจะได้ช่วงวันหยุดยาวที่สำคัญของคนผิวสีมากระตุน กลับทำเงินลดลงฮวบไป -59% อีก 1.9 ล้านเหรียญ หลุดจาก Top 10 ไปเรียบร้อย ส่วน "Soul" หนังแอนิเมชันจากพิกซาร์ ที่ไม่มีโอกาสได้ลงโรงฉายเพราะติดช่วงสถานการณ์โควิด-19 ดิสนีย์ได้ทำมาเข้าโรงฉายครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ก็ทำเงินไปได้เพียง 429,000 เหรียญ จาก 1,350 โรงฉาย ถือว่าเป็นแนวทางที่ไม่ค่อยเวิร์กสักเท่าไหร่ ในเมื่อหนังเหล่านี้ได้ฉายผ่านสตรีมมิงมาร่วม 2 ปีได้แล้ว
และสัปดาห์นี้ก็น่าจะเป็นช่วงบ็อกซ์ออฟฟิศได้เบรกกันอีกรอบ เพราะไม่ค่อยมีโปรแกรมหนังใหม่ที่น่าดึงดูดใจเข้าฉาย มีเพียง "I.S.S." หนังระทึกขวัญไซไฟของ อารีอานา เดโบซ ออกฉายวงกว้างอย่างโดดเด่น ตามมาด้วย "Origin" หนังดรามาจากค่าย Neon ของผู้กำกับหญิง เอวา ดูเวอนีย์ ที่จะได้ฤกษ์เพิ่มโรงฉายเป็นวงกว้างอย่างเป็นทางการ
Source: TheNumbers
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- [US Boxoffice] "Night Swim" ว่ายหลอนสู่รองแชมป์ "Wonka" ยึดบัลลังก์ต่อ
- [US Boxoffice] พลิกกลับมาขึ้นแชมป์ "Wonka" วินเนอร์สัปดาห์สุดท้ายของศักราช
- [US Boxoffice] ไม่โผล่พ้นน้ำ "Aquaman 2" เปิดตัวในน้ำกร่อย ต้อนรับวันคริสต์มาส
- TrueID BoxOffice 5 หนัง 5 ซีรีส์ออนไลน์ฮิตจากแอป TrueID
- Movie.TrueID ชวนดู 5 หนังดีช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
-------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa